หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

ลัดฟ้าเที่ยวมองโกเลีย 7 วัน สนุกสุดมันส์ใครไม่ไปไม่มีทางรู้

ลัดฟ้าเที่ยวมองโกเลีย 7 วัน สนุกสุดมันส์ใครไม่ไปไม่มีทางรู้



มองโกเลีย ชื่อนี้มี 2 สถาน 1 คือมองโกเลียใน ที่ยังอยู่ในการปกครองของประเทศจีน มีชื่อภาษาอังกฤษสวย ๆ ว่า Inner Mongolia อันนี้ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเรา !

          จุดหมายของเราในคราวนี้คือ "ประเทศมองโกเลีย" อันมีเมืองหลวงชื่อว่า อูลานบาตอร์ (Ulaanbatar/Ulan Bator) ไม่พูดภาษาจีน ตัวอักษรใช้ตามแบบรัสเซีย แต่มีภาษามองโกเลียเป็นของตนเอง !

          ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

มองโกเลีย

          ใช่ค่ะ มองโกเลียไม่ใช่เล่น ๆ หาก เนปาล ทิเบต ประเทศอินเดีย คือยอดปรารถนาของนักเดินทางทั่วโลก "มองโกเลีย" ก็มักจะต้องติดโผอยู่ใน Wish List สถานที่ที่จะต้องมา see ก่อน die ของขาเที่ยวในสายเลือด

          ทำไมใคร ๆ ก็อยากไปมองโกเลีย ?

          ความเห็นส่วนตัวฉันมีคำตอบให้ตัวเองกว้าง ๆ คร่าว ๆ ในใจ "ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และผู้คน" หนนี้ฉันมีเวลาเพียงสั้น ๆ ที่จะได้ทำความรู้จักกับประเทศที่ใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่า แต่มีประชากรราว 3 ล้านคนเท่านั้น

          2 วันเดินทาง + 5 วัน ที่ได้อยู่มองโกเลีย ฉันพูดได้เต็มปากเลยว่า "นี่เป็น Trip of a Lifetime จริง ๆ"

มองโกเลีย

          ตารางการเดินทาง

          ● Day 1 : ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ-ฮ่องกง ค้าง 1 คืน

          ● Day 2 : ออกเดินทางจากฮ่องกง บินตรงสู่นครอูลานบาตอร์ (Ulanbatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย

          ● Day 3 : Winter Palace of Bogd Kha-Zaizan Memorial, อนุสาวรีย์เจงกิสข่านที่ใหญ่ที่สุดในโลก, Teralj National Park, Turtle Rock-Aryapala Meditation Center, ขี่ม้า อยู่เกอร์ (Ger) กับชาวโนแมดแท้ ๆ

          ● Day 4 : โตบนรถ ทรหดกับพายุทราย ไปนอนเมืองหลวงเก่าคาราโครัม (Kharakhorum /Khakhoryn)

          ● Day 5 : เมืองหลวงเก่าแห่งประวัติศาสตร์ชาติมองโกล, Erdene Zuu Monastery, Great imperial map monument, แวะ selfie กับอูฐสองหนอก ก่อนกลับเมืองหลวง Ulanbatar

          ● Day 6 : เดินเที่ยวเอง Gandantegchinlen Monastery, National Museum (ควรดูมาก ๆ), Chinggis Square, ร้านกาแฟกรุบกริบ

          ● Day 7 : Flight กลับบ้านแต่เช้า (แวะเที่ยวเล่นฮ่องกงก่อนกลับ)

          ค่าใช้จ่าย

          *ค่าทัวร์ 5 วัน จองกับเกสต์เฮ้าส์ในอูลานบาตอร์ค่ะ *แนะนำมาก ๆ* - USD 255/คน (http://www.kapook.com/webout.php ... istanomadstour.com/)

          **ค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-ฮ่องกง-กรุงเทพฯ by Cathay Pacific = 6,XXX บาท/คน

          ***ค่าโรงแรมที่ฮ่องกง 2 คืน (ไป-กลับ) Conext Hostel, Jordan = 2,XXX บาท/คน

          ****ค่าตั๋วเครื่องบิน ฮ่องกง-อูลานบาตอร์-ฮ่องกง by MIAT Airlines (สายการบินประจำชาติมองโกเลีย) = 21,530 บาท/คน

          *พร้อมแล้ว...ไปลุยกันเลย !!!*

มองโกเลีย

          ฝากเพจนิด ฝากติดตามกันได้ค่ะ : เฟซบุ๊ก ww4travel

          * - * กว่าจะถึงมองโกเลีย

          1. เชื่อไหมไม่ต้องขอวีซ่า มาถึงยื่นพาสปอร์ตไทยแลนด์แล้วปั๊มตราอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน สะดวกสบาย ไม่มีค่าวีซ่าให้ปวดหัวใจแต่อย่างใด

          2. การเดินทาง สะดวกที่สุดคือทางเครื่องบิน ถึงจะไม่มีไฟล์ทตรงจากรุงเทพฯ แต่ก็มีไฟล์ทต่อจากหลาย ๆ ประเทศที่แสนจะน่าแวะเที่ยว เช่น โตเกียว โซล ฮ่องกง และปักกิ่ง (ปักกิ่งไม่ค่อยอยากแนะนำเพราะถ้าจะแวะเที่ยวจะต้องขอวีซ่าจีนแบบมัลติเพิลอีกต่างหากด้วย แต่ถ้าใครคิดว่าจะแวะเยี่ยมญาติที่ซัวเถาด้วยก็เอาที่สบายใจ)

          3. แต่ถ้าใครมีเวลาเยอะ วันหยุด 10 วันขึ้นไป จะลองใช้บริการรถไฟสาย Trans Mongolia (ขึ้นจากปักกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน) ขอไม่ให้รายละเอียดเพราะมีคนทำรีวิวไว้หลายอันแล้ว (ส่วนตัวถ้ามีเวลาก็น่าลอง แต่ราคาสูสีกับตั๋วเครื่องบิน+วีซ่าจีนมัลติเพิล พี่เลือกบินค่ะ !)

          4. อาหารการกินไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เค้าพัฒนาแล้ว KFC Pizza Hut ร้านกาแฟสัญชาติเกาหลี เต็มเมืองอูลานบาตอร์ ไม่อดตายแน่นอน แถมเวลาออกไปนอกเมืองไปอยู่กับชาว Nomad เรื่องอาหารการกินก็หายห่วง พี่คิดว่ากินง่ายอยู่ง่ายกว่าอินเดียเสียอีก ! (ส่วนตัวพี่ไม่กินวัว กินแพะ กินแกะ ก็มีไก่มาให้กิน แถมผักที่นี่อร่อยมากซะด้วย !)

          5. อากาศ ช่วงที่ดีที่สุดในการมาเยือนมองโกเลียคือหน้าร้อน กรกฎาคม/สิงหาคม/กันยายน หน้าหนาวอย่ามา หนาวมาก หนาววัวตายควายล้ม (พ.ย.-ก.พ.) พี่เลือกมาฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.). อากาศดี ฟ้าสวย อาจเจอหิมะบ้างอุณหภูมิ 1-2 องศาหนาวกำลังดี

          6. เงินตรา ค่าเงินและค่าครองชีพที่นี่ คร่าว ๆ ถูกกว่าบ้านเรา ข้าวมื้อหนึ่งตก 1-2 $ (ที่นี่ใช้ Tughrik-1$ = 2,000 TGH) ส่วนพวกร้านกาแฟ ฟาสต์ฟู้ดในเมือง หรือร้านอาหารในโรงแรมราคาพอ ๆ กับบ้านเราไม่ต่างกันเท่าไร

          7. สำคัญที่สุดก่อนคุณคิดจะมามองโกเลีย...คุณต้องทำใจกับ "ส้วมหลุม" กับ "ไม่อาบน้ำ" ให้ได้ก่อน *หา Google เอานะส้วมมองโกเลีย...ศรีทนได้ศรีว่าดีกว่าอินเดีย (พิกัดเจาะจง : เลห์) ที่ศรีเจอมานะ...เอาจริง ๆ 555

          8. คนมองโกเลียใจดีมาก ๆ พร้อมช่วยเหลือตลอด แม้บางคนจะพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องแต่เค้าก็พยายามจะช่วยด้วยความเต็มใจมาก ๆ ส่วนตัวคิดว่าเป็นประเทศหนึ่งที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวมาก ๆ นะคะ ผู้คนเป็นมิตรและมีน้ำใจมาก

มองโกเลีย

          ❤️ Day 1 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ-ฮ่องกง ค้าง 1 คืน *ขอผ่าน* 555

          ❤️ Day 2 ออกเดินทางจากฮ่องกง บินตรงสู่นครอูลานบาตอร์ (Ulanbatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย ไฟล์ทดีเลย์พองาม เครื่อง MIAT เก่าพอทำใจได้ (บริการดี๊ดีอะ ให้บริการ 5 ดาวเต็ม) ความปลอดภัย นักบินเก๋าเกมมาก สภาพอากาศวันนั้นไม่ดีแต่พี่กัปตันทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม มืออาชีพมาก ๆ ถึงสนามบินชื่อเท่ Chinggis Khaan International Airport รถจาก Danista Nomads ก็มารับถึงสนามบิน คุณพี่คนขับพูดอังกฤษได้นิดหน่อย ก็พาเราขับเข้าเมืองมาใช้เวลาประมาณ 40 นาที (รถติดไม่เท่าไรแต่สัญญาณไฟถี่มาก 555)

มองโกเลีย

          ทำไมถึงเลือก Danista Nomads ? (danistanomadstour.com) ราคาไม่แพง ทำเลดี (ถึงจะอยู่ในซอยเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ลึกมาก) เดินไปเที่ยวรอบ ๆ เมืองไม่ยาก อยู่ใกล้ห้าง ร้านกาแฟ และโรงแรม Ramada

          *รูปห้องเอามาจากเว็บไซต์ของโรงแรมค่ะ*

มองโกเลีย

          คะแนนรีวิวใน TripAdvisor มีผลต่อการตัดสินใจมาก ที่นี่ผ่านด้วยประการทั้งปวง รวมถึงการโต้ตอบทางอีเมลกับ Mr.Jagga เจ้าของก็รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ คุยง่ายและใจดีมาก ๆๆ

          *Tips* โฮสเทลราคาห้องทวิน 20 USD ห้องเดี่ยว 10 USD รวมอาหารเช้าเบา ๆ ห้องน้ำในตัวมีน้ำอุ่น มีฮีตเตอร์ โดยรวมคุ้มราคามาก ๆ แถมทัวร์ที่จัดบริการดีมากค่ะ

          ป.ล. ไม่มีลิฟต์นะคะ ใครกระเป๋าใหญ่หรือเดินไม่ไหวแนะนำรีเควสห้องชั้นล่างได้ค่ะ

          ป.ล. 2 Wi-Fi ไม่ค่อยดี แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเท่าไร ชอบเดินไปร้าน Cafe Benne ค่ะ Wi-Fi ดีมาก

          ❤️ Day 3 Winter Palace of Bogd Kha-Zaizan Memorial-อนุสาวรีย์เจงกิสข่านที่ใหญ่ที่สุดในโลก-Teralj National Park -Turtle Rock-Aryapala Meditation Center-ขี่ม้า อยู่เกอร์ (Ger) กับชาวโนแมดแท้ ๆ

          วันนี้เดินทางทั้งวัน !!! เราเลือกฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้กับ Hostel แล้วจัดของสำหรับค้าง 2 คืน ลงเป้หลัง รถตู้พร้อมคนขับและน้องไกด์หน้าตาจิ้มลิ้ม (หือ ?) มารับพร้อมแนะนำตัว น้องชื่ออูซี่ย์ และมีน้องฝึกงานอีก 1 คน ชื่อซิมบา ติดตามไปด้วย

          จุดแรกที่อูซี่ย์พาเราไปเยี่ยมชมก็คือ Winter Palace of the Bogd Khan ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูหนาวของ บอกด์ ข่าน (Winter Palace of Bogd Khan) กษัตริย์องค์ที่ 8 และองค์สุดท้ายของอาณาจักรมองโกเลีย และยังทรงเป็นพระประมุขของศาสนาพุทธในมองโกเลียอีกด้วย

มองโกเลีย

          พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1893-1903 บอกด์ ข่าน ประทับอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้เป็นเวลา 20 ปี หลังจากทรงเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1924 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1926

          พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับเก่าของบอกด์ ข่าน และราชินี มีการจัดแสดงห้องหับ เครื่องทรง เครื่องใช้ไม้สอย และคอลเลคชั่นสะสมของกษัตริย์ เห็นมีอยู่เพียงตึกเดียวและห้ามถ่ายรูป แต่พี่ยอมรับเลยว่ากล้องในมือมันสั่นมาก สภาพของโบราณวัตถุอยู่ในสภาพดี และมีการติดป้ายคำอธิบายไว้ชัดเจน ถึงจะดูเก่าแต่ก็มีเสน่ห์

          อีกส่วนหนึ่งคือส่วนของวัดที่อยู่ในเขตพระราชฐาน พี่ว่าวัดยังจะกว้างกว่าส่วนของวังเสียอีก มีห้องหับ อาคาร แยกย่อยเยอะแยะ แต่ละห้องแต่ละหลังก็เต็มไปด้วยโบราณวัตถุ ทั้งภาพเขียน ภาพทังกา (แบบทิเบต) รูปปั้น รูปหล่อ พระพุทธรูปนิกายมหายานแบบทิเบตที่เป็นของเก่า อายุเป็นร้อย ๆ ปีเพียบ คือถ้าใครชอบประวัติศาสตร์และของโบราณ พี่ว่าต้องมีครึ่งวันเป็นอย่างน้อย ในการเข้าชมพระราชวังฤดูหนาวแห่งนี้ พี่เองก็ปาไปหลายชั่วโมง ! จนไกด์ค้อนคว่ำแล้วคว่ำอีก 555

มองโกเลีย

มองโกเลีย

          จุดต่อไป...จุดชมวิวที่สูงที่สุดในอูลานบาตอร์ Zaizan Memorial อนุสาวรีย์ชัยสไตล์มองโกเลีย ที่รัสเซียเค้ามาสร้างไว้ให้ !!! (เอ๊ะ ??)

มองโกเลีย

          อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่บนยอดเขา Zaisan ทางตอนใต้ของอูลานบาตอร์ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของทหารโซเวียต ในสงครามโลกครั้งที่ 2 (แล้วพี่มาสร้างอะไรไว้ที่บ้านเค้าเนี่ย ?) อนุสาวรีย์ทรงกลมวงแหวนประดับภาพเขียนสีที่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าโซเวียตแน่ ๆ ค่ะคุณผู้ชม เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหภาพโซเวียตและมองโกเลีย เช่น ภาพของโซเวียตให้การสนับสนุนการประกาศเอกราช (จากจีน) ของมองโกเลีย ในปี ค.ศ. 1921 และการเข้ามาช่วยรบกับญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1939 (อ๋อ....เลยมาสร้างอนุสาวรีย์ให้ตัวเองที่บ้านเค้าอย่างงี้ !) *‪#‎ป๊าบ ! พี่โดนปูตินตบ*

มองโกเลีย

          บันไดทางขึ้นไม่โหดมาก แต่พี่หอบ !!! 555 ความสูงชันระดับบันไดเขาวงพระจันทร์ กับระยะ 300 กว่าขั้นจากที่จอดรถในเลเวล 2 สำหรับผู้ที่ฟิตมาก ๆ มีความเป็นนักกีฬาสูงพี่แนะนำให้เดินตั้งแต่เลเวล 1 เบ็ดเสร็จบันได 600 กว่าขั้น ชิล ๆ เพราะวิวด้านบนนี่สวยสมค่าการเดินปีนขึ้นมาหอบยิ่งนัก !! ใครชอบถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น-ตก พี่แนะนำเลย สวยมาก ๆ (ปีนเหนื่อยมาก ๆ ด้วย 555)

มองโกเลีย

          Day 3 อนุสาวรีย์เจงกิสข่านที่ใหญ่ที่สุดในโลก

          นั่งรถออกจากตัวเมืองไม่นาน ราว ๆ 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงอนุสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของท่านเจงกิสข่าน มหาบุรุษผู้ครองโลกไปแล้วเกินครึ่ง ในปี ค.ศ. 2008 ทางการมองโกเลียได้สร้างอนุสาวรีย์เจงกิสข่าน (Genghis Khan Equestrian Statue) เพื่อรำลึกถึงความเกรียงไกรในอดีตชนชาติมองโกล บริเวณนี้มีตำนานเล่าว่าได้ค้นพบแส้ทองของอดีตข่านผู้ยิ่งใหญ่ นับเป็นอนุสาวรีย์รูปปั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย มีความสูงประมาณ 40 เมตร น้ำหนักกว่า 250 ตัน ซึ่งตัวรูปปั้นสร้างมาจากสเตนเลสที่สะท้อนแสงแสบตาสว่างสุกใสท่ามกลางความเวิ้งว้าง

มองโกเลีย

          สามารถขึ้นลิฟต์มาถึงด้านบน (ประมาณอกท่านเจงกิสข่าน) ชมวิวไกลสุดลูกหูลูกตา หรือจะมาเซลฟี่กับท่านเจงกิสข่านก็ยังได้

มองโกเลีย

          ใต้ฐานของอนุสาวรีย์เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์และมีจุดให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก มีชุดประจำชาติมองโกลแบบต่าง ๆ ให้ลองใส่ ที่สำคัญ "ฟรี" ค่ะคุณผู้ชม !

          *Tips* ให้เขาถ่ายให้ อัด พรินท์กันตรงนั้นสนนราคาก็ไม่แพง (5 USD)

มองโกเลีย

          คารวะลาท่านเจงกิสข่านแล้วเราก็นั่งรถต่อมาอีก 1 ชั่วโมง เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ Teralj แวะถ่ายภาพกับหินรูปเต่า เต่าจริง ๆ มองมุมไหนก็เป็นเต่าค่ะ 5555

มองโกเลีย

          ลาเต่าแล้วเราก็นั่งรถต่อมาอีกประมาณ 10 นาที คุณน้องไกด์อูซี่ย์พาพี่มาเดิน Trekking ขึ้นเขาเข้าวัดเบา ๆ คราวนี้ใครไม่ฟิตจริงมีหอบเล็กน้อยแน่นอนค่ะ เพราะทางเป็นทางลาดชัน แต่ระหว่างทางก็สบาย ๆ ค่ะ หอบไปอ่านคำสอนทางพระพุทธศาสนาไป

มองโกเลีย

          ถึงตีนบันไดวัดก็พอดีค่ะ ...ยังไม่บรรลุนะ แต่เหนื่อย 555 ตามด้วยบันไดอีก 108 ขั้น สวย ๆ 555

มองโกเลีย

          แนะนำเลยค่ะ เดินเหนื่อยนิด แต่วิวสวย สงบ แน่นอน รับประกันคุ้มค่าเหนื่อยแน่ ๆ อิชั้นรับประกัน !

มองโกเลีย

          เดือนเมษายนที่มองโกเลียฟ้าจะมืดก็เวลาจะ 3 ทุ่มละค่ะ เพราะฉะนั้นเรามีเวลาเที่ยวยันฟ้ามืดแน่นอน 5555 โปรแกรมสุดท้ายของวันในวันนี้ถือเป็นไฮไลท์ ซูเปอร์สุดยอดปรารถนาของการมาเยือนมองโกเลียเลยค่ะ นั่นคือการได้มาใช้ชีวิตอยู่กับชาวมองโกเลีย โนแมดส์ (ชาวเผ่าเร่ร่อน) แท้ ๆ แบบที่ไม่ใช่ปลอมแปลงมาเพื่อรับลูกค้าทัวร์

          เราออกจากหินเต่าได้ประมาณ 30 นาที คุณพี่คนขับก็จอดเลียบ ๆ เคียง ๆ ข้างทางอย่างกับว่าจะถามทางคุณพี่ที่จอดมอเตอร์ไซค์อยู่

มองโกเลีย

          เราคาดผิดค่ะ พี่คนขับไม่ได้จอดถามทาง แต่คุณพี่มอเตอร์ไซค์นี่ล่ะค่ะคือปะป๊าเจ้าของเกอร์ (แคมป์) ที่เราจะไปพักด้วยในวันนี้ ป๊ามารับค่ะ เพราะทางไปบ้านยากมาก ไปเองหลงแน่นอน 555 ขับรถตู้ 4WD ตามเข้าไปอีกประมาณ 30 นาที ผ่านป่าสน ลำธาร ทุ่งหญ้า สวยมาก สวยลืมโลก สวยไม่รู้บรรยายยังไง

          *เอารูปไปดูค่ะ*

มองโกเลีย

          สักพักก็ถึงทางลงเนินเขา...และเบื้องหน้าเกอร์ของป๊าอยู่ด้านล่างตรงหุบเขานั้น ...

มองโกเลีย

          คืนนี้เราจะพักกับป๊าและหม่าม๊าที่นี่ค่ะ !

มองโกเลีย

          เกอร์สำหรับแขกที่มาพัก ภายในมี 4 เตียงค่ะ มีที่นอน หมอน ผ้าห่ม เตาผิง (อุ่นมากแต่ต้องคอยเติมฟืน) ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มี Wi-Fi ห้องน้ำอยู่กลางทุ่งห่างจากรั้วบ้านออกไป 200 เมตร ไม่ใช่ปัญหา 555 เราพร้อมมาก !

มองโกเลีย

          น้องไกด์เตรียมถุงนอนสะอาดเอี่ยมไว้ให้เราด้วย เผื่อกลางคืนหนาว (หนาวจริง หนาวหลับตายไปเลย 555) วิวหน้าเกอร์เรา ... สวยไหม

มองโกเลีย

          นั่งพักสักครู่ ป๊าก็มาเชิญเราไปที่เกอร์เจ้าบ้าน ป๊ากับม๊าเตรียมนมอุ่น ๆ ใส่เกลือไว้ต้อนรับเราพร้อมขนมกะละมังใหญ่

มองโกเลีย

          ชวนกันคุยโดยผ่านน้องไกด์ (เสื้อแดง) พี่คนขับนั่งกลาง ส่วนป๊านั่งอยู่ขวามือสุดค่ะ ...

มองโกเลีย

          แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเม้าท์กันเองมากกว่า 555 ได้ความว่าป๊ากับม๊ามีลูกสาว 3 คน เรียนหนังสืออยู่ในเมืองหลวง ปิดเทอมถึงจะกลับมาบ้าน พวกเขาย้ายไปตามโลเคชั่นต่าง ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ที่ตรงนี้จะอยู่ช่วงฤดูหนาว เดือนเมษายนนี่เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วก็จะฤดูร้อน แล้วก็จะย้ายไปอยู่แถว ๆ ริมแม่น้ำ ย้ายคือเอาไปหมดทั้งบ้านทั้งรถ ทั้งฝูงสัตว์ค่ะ ก็มานั่งจินตนาการว่าตอนย้ายบ้านคงสนุกดี (บอกป๊าไว้คราวหน้าจะมาช่วยย้ายบ้าน 555)

          อิ่มขนมกับชาเรียบร้อยแล้ว ป๊าและน้องอูซี่ย์ก็พาเราไปขี่ม้าเที่ยว ม้ากับชาวมองโกลเป็นของคู่กัน

มองโกเลีย

          ชาวมองโกลที่ไม่ขี่ม้าเปรียบเสมือนอินทรีที่ไม่มีปีก เด็กชาวมองโกลทุกคนขี่ม้าเป็นตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเกณฑ์โรงเรียน !! สมกับเป็นทหารเอกเจงกิสข่านจริง ๆ ค่ะ

มองโกเลีย

          ขี่เหยาะ ๆ ไปข้างหน้า ทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ป๊านำไปพลางร้องเพลงไปพลาง อากาศเย็นสบาย (หนาว 555) แดดอ่อน ๆ (ทุ่มหนึ่งแล้ว !!) มองขวามองซ้ายมีแต่ความเวิ้งว้าง มีแต่เสียงเพลงเบา ๆ จากป๊า เสียงคุยกันจุ๋งจิ๋งของสายลม นับเป็นช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ที่มีความสุขมาก

มองโกเลีย

          และแล้วก็ถึงเวลาอาหารค่ำ วันนี้เจ้าบ้านและเจ้าถิ่นภูมิใจนำเสนอ "มองโกเลียนบาร์บีคิว" เป็นการปรุงอาหารแบบมองโกลแท้ ๆ โดยใช้หินเผาไฟร้อน ๆ อบแกะและผักให้สุกในกะละมังใบใหญ่ !

มองโกเลีย

          คนขับรถของเรารับหน้าที่ช่วยป๊าวางเนื้อแกะลงกะละมังอย่างพิถีพิถัน

มองโกเลีย

          น้องอูซี่ย์และน้องแว่น (ซิมบา) บอกว่ารออีก 30 นาที นะยู เดี๋ยวเสร็จแล้วไอจะไปเรียก .... น้องแว่นซิมบานี่มีประโยชน์ คือน้องทำกับข้าวเป็น และตัวฉันเองก็ไม่กินเนื้อแกะ น้องเลยผัดไก่กับซอสแดงมาให้ น้ำตาจะไหล อร่อยมากค่ะ !! (จานเล็ก ๆ นั่นไงกับข้าวพิเศษ 555)

มองโกเลีย

          อิ่มหนำสำราญใจกันแล้วป๊ากับม๊าก็ขอตัวไปพักผ่อน พวกเราที่เหลือก็เลยปลีกตัวเข้ามาที่เกอร์ของตัวเอง จัดเตรียมที่นอน รอดาวขึ้นเต็ม ๆ ฟ้า แล้วแบกอุปกรณ์กันหนาวออกไปสู้จุดเยือกแข็งด้านนอกเกอร์ ดาวสวยมาก ! ขออภัยที่ถ่ายภาพอะไรมาฝากไม่ได้เลย 5555555 หนาวเกิน !!!!! คืนนั้นนอนหลับสบายยันตี 4 ตี 5 ก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะความหนาว เตาผิงเริ่มมอด เริ่มขดตัวอยู่ในถุงนอน สักพักม๊าก็เปิดประตู ป๊าเข้ามาเติมฟืนให้ !!!! รอดตายไปค่ะคุณผู้ชม !!!!!

          ก่อนจบวันที่ 3 : ภูมิใจนำเสนอ "ห้องน้ำที่วิวสวยที่สุดในโลก"

มองโกเลีย

          ❤️ Day 4 โตบนรถ ทรหดกับพายุทราย ไปนอนเมืองหลวงเก่าคาราโครัม (Kharakhorum /Khakhoryn)

          ตื่นเต็มตาฟ้าสว่างพอดี น้อง ๆ ไกด์ทำอาหารเช้ามาเสิร์ฟเป็นขนมปัง ไข่ดาว กาแฟและแยม ออกมาถ่ายภาพยามเช้า เดินดูป๊ากับม๊าทำงานรอบ ๆ ที่พัก เล่นกับหมา ดูวัวดูม้าไปตามเรื่อง สาย ๆ ก็ได้เวลาร่ำลาเจ้าของบ้านกันค่ะ ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกก่อนจากลา โอกาสหน้าพบกันใหม่ วันนี้หนทางเรายังอีกยาวไกลกว่าจะถึง Kharakhorum

มองโกเลีย

          ระยะทางจาก Teralj National Park ถึง Kharakhorum ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง สภาพถนน 60% ศรีทนได้ เพราะวิวสองข้างทางทำเอานอนไม่หลับ (แต่ก็มีหลับ 555)

มองโกเลีย

          เราแวะกลางทาง เป็นทุ่งหญ้าสีน้ำตาลบรรดาไกด์แสนดีก็ปล่อยเราวิ่งเล่นอยู่ในทุ่ง ระหว่างที่พวกเค้าทำอาหารกลางวันให้เรากิน วันนี้มีสปาเกตตีไก่ อร่อยมากอีกเช่นเคย (ยกนิ้วให้น้องแว่นซิมบา)

มองโกเลีย

          อิ่มหนำแล้วเดินทางต่อค่ะ ตามโปรแกรมเราต้องแวะขี่อูฐที่ Sand Dune แต่โชคไม่ดีเราเจอพายุทรายโครงการขี่อูฐเลยเป็นอันพับไป

มองโกเลีย

          บึ่งเข้าที่พักเลยดีกว่า วันนี้พักเกอร์เช่นเคยค่ะ แต่เป็นเกอร์แบบทำไว้ให้นักท่องเที่ยวพัก เป็นโรงแรมในสไตล์เกอร์ว่าอย่างนั้น เกสต์เฮ้าส์ที่เราพักชื่อว่า Mönkhsuuri Guesthouse ภายในที่พักสะอาด เตียงนิ่ม ผ้าห่มหนานุ่ม มีเตาสโตฟแบบใช้น้ำมันเตาให้ความอบอุ่นได้นานกว่าเตาแบบฟืน ห้องน้ำเป็นส้วมหลุมอยู่ เพิ่มเติมคือมีห้องมิดชิดแถมมีโถนั่งด้วยนะคุณ (แต่ด้านล่างก็ยังหลุมอย่างเดิม 555)

มองโกเลีย

          ที่เด็ดสุดของเกสท์เฮ้าส์นี้ก็คือมันห่างจาก Erdene Zuu Monastery แค่ 900 เมตร เกินไปก็ยังได้ชะเง้อมองก็ยังเห็นวิวยามเย็นสวยมากกกกกก ! อธิบายไม่ถูกเอารูปไปดูค่ะ

มองโกเลีย

          คืนนี้มื้อเย็นคุณไกด์ทำผัดก๋วยเตี๋ยวมาให้กิน รสคือผัดซีอิ๊วบ้านเรา กินอิ่มนอนหลับ วันนี้มีปลั๊กให้ชาร์จแบต คือดีงาม 555

มองโกเลีย

          รถตู้ประจำตำแหน่ง 4WD ซะด้วยนะคุณ !

          ❤️ Day 5 เมืองหลวงเก่าแห่งประวัติศาสตร์ชาติมองโกล, Erdene Zuu Monastery, Great imperial map monument แวะ Selfie กับอูฐสองหนอก กลับเมืองหลวง Ulanbatar

          วันนี้ตื่นสาย ๆ อากาศดีฟ้าแจ่มมาก ๆ ค่ะ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่เลขตัวเดียวเวลากลางวัน กลางคืนก็ติดลบเลขตัวเดียวนิดหน่อย แต่ด้วยอานุภาพของเตาผิงในเกอร์ ความหนาวของมองโกเลียก็ไม่ได้โหดร้ายกับมนุษย์เมืองร้อนอย่างเรามากนัก วันนี้เป็นวันแห่งความรู้ค่ะ เมืองคาราโครัม (คนมองโกลออกเสียงว่า ฮาราโฮรุม) ปัจจุบันอยู่ในเขตเมือง Khakhoryn เป็นอดีตราชธานีของอาณาจักรมองโกลที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อระหว่างเอเชียและยุโรป รวมไปถึงเส้นทางสายไหมอันลือชื่อ

          วันนี้จุดแรกที่แนะนำว่าควรแวะไปเยือนก็คือพิพิธภัณฑ์ Karakorum Museum เป็นสุดยอด 1 ในพิพิธภัณฑ์ที่เคยดูมา ทั้งข้อมูล การอธิบาย หลักฐานทางประวัติศาสตร์และการจัดแสดงโบราณวัตถุ ทำได้ดีมากค่ะ ครบถ้วนและเข้าใจง่าย ใครชอบประวัติศาสตร์ชาติมองโกลห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ !

มองโกเลีย

          ได้รับความกรุณาจากศาสตราจารย์ท่านผู้บรรยายในการให้ความรู้อย่างเต็มที่ ถ้ามีโอกาสแนะนำเลยค่ะ ควรมาเยือนอย่างยิ่ง !

มองโกเลีย

          พาสปอร์ตเล่มแรก ๆ ของโลกก็ว่าได้ !! พาสปอร์ตของ Marco Polo นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่

มองโกเลีย

          ป.ล. ภายในสามารถถ่ายภาพได้โดยมีค่าธรรมเนียมนะคะ

          จากนั้นเราก็มาเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองคาราโครัม Erdene Zuu Monastery ว่ากันว่าเป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่ในมองโกเลีย

มองโกเลีย

          ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1585 โดย Abtai Sain Khan ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาพุทธจากทิเบตมาเผยแพร่ในมองโกเลีย

มองโกเลีย

          เดิมเคยมีหมู่วัดรวมอยู่ถึง 100 วัด ภายในกำแพง แต่วัดส่วนใหญ่ได้ถูกคอมมิวนิสต์ทำลายลงในปี ค.ศ. 1937-1938 และยังคงเหลืออยู่เพียง 3 วัดเท่านั้น

มองโกเลีย

          สภาพโดยรอบจะเห็นซากปรักหักพังของสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่เหลืออยู่

มองโกเลีย

มองโกเลีย

          ท่านผู้นำชมภายในบริเวณรอบ ๆ วัด แน่นทั้งข้อมูลประวัติศาสตร์และข้อมูลทางศาสนา

มองโกเลีย

มองโกเลีย

          จากนั้นห่างออกไปจากวัด Erdene Zuu ราว 200 เมตร ก็มีแหล่งโบราณคดีที่กำลังจะเปิดให้เข้าชมเร็ว ๆ นี้ค่ะ....ตอนเราไปยังไม่เปิด ก็ได้แต่ชมเต่าอายุหลายร้อยปีอยู่ด้านนอก

มองโกเลีย

          Great imperial map monument

          ขับรถจาก Erdene Zuu Monastery ออกมานอกเมืองประมาณ 5 นาที เดินขึ้นเขาด้วยบันไดอีกนิดหน่อย เราก็จะพบอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2004 บนยอดเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Kharkhoryn  ตัวอนุสาวรีย์ประกอบไปด้วยกำแพงทรงกลมสามด้าน แต่ละด้านแสดงภาพอาณาเขตของอาณาจักรมองโกลอันรุ่งเรืองในอดีต 3 ยุคด้วยกัน ยุค Hunnu 300-200 ก่อนคริสตกาล, ยุค Turkic ในช่วงคริสต์ศักราช 600-800 และยุค Mongol ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13

มองโกเลีย

          ตรงส่วนกลางของอนุสาวรีย์มีกองหิน Ovoo ขนาดใหญ่ ในความเชื่อของชาวมองโกเลียเชื่อกันว่าเจ้ากองหิน Ovoo นี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาภูเขาและท้องฟ้า ส่วนใหญ่สร้างบนพื้นที่สูง เช่น ยอดเขาหรือเนินเขา มักสร้างจากหินและไม้ พบเห็นได้ทั่วไปตลอดการเดินทางในมองโกเลีย ชาวมองโกเลียเชื่อว่าสามารถขอพรได้โดยเดินวนรอบกองหิน 3 รอบ แล้วโยนหิน 3 ก้อน เข้าไปเพื่อเป็นการบูชาและขอพร บางคนก็โยนลูกอม ขนม ผลไม้ รวมถึงวอดก้าเป็นขวด ๆ ก็มีค่ะ 555

มองโกเลีย

          จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเมือง คุ้มค่ากับการปีนบันไดขึ้นมาชมแน่นอนค่ะ

มองโกเลีย

          เรากลับไปกินข้าวกลางวันกันที่เกสต์เฮ้าส์ วันนี้เป็นซุปไก่ฝีมือน้องแว่นซิมบา รสชาติดีทีเดียวค่ะ อิ่มหนำกันแล้วก็ได้เวลาบอกลาคาราโครัม ออกเดินทางกลับสู่เมืองอูลานบาตอร์

มองโกเลีย

          ระหว่างทางแวะถ่ายเซลฟี่กับบรรดาอูฐสองหนอก วันนี้ไม่มีพายุทรายค่ะ อากาศแจ่มใสมาก ทัวร์นี้จริง ๆ เรารวมขี่อูฐด้วย 1 ชั่วโมงค่ะ แต่เราตัดสินใจยกเลิก เพราะกลัวว่าจะกลับเข้าถึงตัวเมืองดึกเกินไป

มองโกเลีย

          เราใช้เวลาอีกประมาณ 5 ชั่วโมงนิด ๆ ก็เดินทางถึงเมืองอูลานบาตอร์ สภาพการจราจรตอนเย็นในเมืองนี่ก็น้อง ๆ สุขุมวิทเลยค่ะ กลับถึง Danista Nomads ได้เราก็หมดแรงนอนแผ่กันเลยทีเดียว !! แต่ยังค่ะ เรายังนอนไม่ได้ !!! เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ชั่วโมง ที่เราจะได้อาบน้ำ !! เย่ !! (จริง ๆ คิดว่ายังทนอยู่ได้อีกหลายวัน 555)

มองโกเลีย

          ❤️ Day 6 เดินเที่ยวเอง Gandantegchinlen Monastery-National Museum (ควรดูมาก ๆ)-Chinggis Square-ร้านกาแฟกรุบกริบ

          วันนี้เราจะพาเดินเที่ยวเอง !! ไม่ยากเลยค่ะ จากโฮสเทลที่เราพักเดินออกมาไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เท่าไร อากาศเย็น ๆ เดินพอขาตึง ๆ 555 กางแผนที่ (แนะนำเตรียมแผนที่ดี ๆ เพราะป้ายบอกทางในอูลานบาตอร์พึ่งพาไม่ได้ !!!)

มองโกเลีย

          แต่ถ้าใครอยากลองแท็กซี่ก็สามารถนะคะ แท็กซี่ที่นี่มี 2 ประเภท (เท่าที่เห็น) แบบแท็กซี่จริง ๆ กับแท็กซี่สมัครเล่น (คือไม่ใช่แท็กซี่แต่อยากหารายได้พิเศษ 555 ราวกับว่ารถทุกคันบนถนนในอูลานบาตอร์สามารถเรียกเป็นแท็กซี่ได้ !) สนนราคาตกลงกันให้ดีก่อนกระโดดขึ้นรถนะคะ ส่วนตัวไม่ได้ลองค่ะ แต่แท็กซี่สมัครเล่นจอดกวักมือเรียกกันเกรียวตลอดทาง (หน้าตาดูหลงสุดฤทธิ์)

มองโกเลีย

          วันนี้ตามกำลังขาจะเดินไหวของเรา เราไปได้ 3 ที่ค่ะ เริ่มด้วย

          1. วัด Gandantegchinlen Monastery

          หนึ่งในวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดของมองโกเลีย ค่าเข้าประมาณ 2 USD (4,000 Tugrik) เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีกิจกรรมทางพุทธศาสนาหลายอย่างน่าสนใจ ขนาดเราไปแต่เช้ามากแล้วยังพบว่าไปเช้าไม่เท่าชาวมองโกเลียค่ะ ที่วัดวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยพุทธศาสนิกชนมาทำบุญกันเพียบ

มองโกเลีย

          พิธีกรรมบางอย่างก็คล้ายบ้านเรามาก เช่น การจุดตะเกียง การถวายน้ำมันตะเกียง มีพิธีคล้าย ๆ สะเดาะเคราะห์แบบคลุมผ้า (น่าจะคุ้นเคยกันดี เช่น พิธีถวายผ้าห่มหลวงพ่อโต ที่วัดพนัญเชิง) กิจกรรมทางศาสนาเยอะเสียจนเชื่อว่านี่เป็นวัดศูนย์รวมใจของชาวมองโกเลียก็ว่าได้ค่ะ

มองโกเลีย

          ศาสนาพุทธในมองโกเลียเป็นแบบนิกายมหายาน หมวกเหลือง มีต้นกำเนิดมาจากทิเบต เราจึงเห็นลามะชุดเหลืองชุดแดงเดินกันขวักไขว่ มีพระลามะจำพรรษาที่วัดนี้ราว 150 รูป

มองโกเลีย

          ภายในวิหารใหญ่ยังมีพระพุทธรูปยืน (ในร่ม) สูงที่สุดในโลก เป็นพระพุทธรูปของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ สูง 26.5เมตร บูรณะสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1996

มองโกเลีย

          *Tips* ภายในวิหารถ่ายภาพเสียค่าธรรมเนียม 5 USD ค่ะ

          2. National Museum of Mongolia

          พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกเลีย หากคุณชื่นชอบในประวัติศาสตร์ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ ! ค่าเข้า 5,000 Tugrik (2.5 USD)

มองโกเลีย

          มีนิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไดโนเสาร์ตัวแรกของโลกในมองโกเลีย ไปจนถึงยุคเรืองรองของเจงกิสข่าน จักรพรรดิผู้ครองโลก ไปจนถึงการเข้ายึดครองของจีนและรัสเซีย จวบจนสมัยปัจจุบัน คือตั้งแต่ 0-100 ประวัติศาสตร์มองโกเลียถูกรวบรวมไว้ที่นี่ ยอมรับเลยว่าการจัดแสดง ข้อมูล เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการนำเสนอระดับโลกมาก ๆ เดินอยู่ครึ่งวันยังรู้สึกว่าเวลาน้อยไปจริง ๆ 555

          ส่วนตัวชอบส่วนจัดแสดงเสื้อผ้าของชาวมองโกลเผ่าต่าง ๆ จากยุคต่าง ๆ มากค่ะ (เสียดาย/ไม่ได้ถ่ายภาพข้างในมา จำได้ว่าถ่ายได้นะคะ แต่ต้องมีค่าธรรมเนียม)

          3. Sukhbaatar หรือ Chingghis Khan Square

          "สนามหลวง"  ของอูลานบาตอร์ ! ยามเย็นจะพบเห็นชาวมองโกเลียมาแฮงก์เอาท์กันที่นี่ค่ะ

มองโกเลีย

          ทั้งวัยรุ่นวัยผู้ใหญ่ เด็กเล็กเด็กน้อย มาสังสรรค์เฮฮากัน มีกิจกรรมรอบ ๆ จัตุรัสน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ทั้งจักรยาน สเกตบอร์ด โรลเลอร์เบลด รวมไปถึงหนุ่มน้อยสาวน้อยขับรถเบนซ์หลากหลายรุ่นหลากหลายสีดูเป็นที่สนุกสนาน !
มองโกเลีย

          ...แต่จะให้ป้าไปเล่นกับหนูนั้น ... คงจะไม่ได้ 5555

          เดินเหนื่อยแล้วอูลานบาตอร์ก็ยังมีเซอร์ไพรส์มาให้อยู่ไม่ขาดค่ะ ร้านกาแฟสัญชาติเกาหลีอย่าง Caffe Bene' / CODE หรือแม้กระทั่ง Coffee Beans ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในเมืองหลวง สนนราคาพอ ๆ กับบ้านเราค่ะ ส่วนตัวชอบร้าน CODE มาก ได้ไปใช้บริการสาขาหนึ่งที่เดินผ่านก่อนถึง National Museum พูดเลยบรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ยุโรปยังไงยังงั้น ที่สำคัญ Wi-Fi ฟรีและดีมาก ๆ !!!

มองโกเลีย

          ------------------------------------------

          ❤️ Day 7 วันเดินทางกลับ (แวะเที่ยวฮ่องกง) ถึงกรุงเทพฯ วันที่ 8

          จบทริป 1 ในความทรงจำ Trip of a Lifetime จริง ๆ ค่ะ ได้แต่หวังไว้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาเยือนอีกครั้ง ครั้งหน้าตั้งใจจะไปให้ถึงทะเลทรายโกบีและทะเลสาบไบข่าน ขอเวลาทำงานเก็บงบสักแป๊บ ไว้พบกันใหม่นะ "มองโกเลีย"

ทัวร์ญี่ปุ่น  ทัวร์เกาหลี  ทัวร์สิงคโปร์  ทัวร์ฮ่องกง
ทัวร์ยุโรป  ทัวร์ไต้หวัน  ทัวร์จีน  ทัวร์มาเลเซีย
ทัวร์เวียดนาม  ทัวร์กัมพูชา  ทัวร์พม่า  ทัวร์ลาว
ทัวร์มัลดีฟส์  ทัวร์อินเดีย  ทัวร์เนปาล  ทัวร์ภูฏาน
ทัวร์ศรีลังกา  ทัวร์จอร์แดน  ทัวร์อินโดนีเซีย  ทัวร์ฟิลิปินส์
ทัวร์ดูไบ  ทัวร์บาหลี  ทัวร์อียิปต์  ทัวร์รัสเซีย
ทัวร์โครเอเชีย  ทัวร์ตุรกี  ทัวร์อเมริกา  ทัวร์ออสเตรเลีย
ทัวร์นิวซีแลนด์  ทัวร์แอฟริกาใต้
ทัวร์ญี่ปุ่นพรีเมี่ยม จองตั๋วเครื่องบิน
รถเช่า  โรงแรม
ตั๋วสวนสนุก ตั๋วรถไฟ
ประกันการเดินทาง  Pocket wifi
ทัวร์ในประเทศ  แพคเกจอิสระ
รับจัดกรุ๊ปทัวร์  แฟรนไชส์
ตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วเครื่องบิน ไทยไลอ้อนแอร์
เที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น  เว็บบอร์ด
แฟรนไชส์ตั่วเครื่องบิน แฟรนไชส์ทัวร์ แฟรนไชส์ท่องเที่ยวครบวงจร
รับจัดทัวร์ รับจัดกรุ๊ปทัวร์ รับจัดสัมมนา
Nok Air นกแอร์ จองตั๋วเครื่องบินนกแอร์
AirAsia แอร์เอเชีย จองตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย
Thai Lion Air ไลออนแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์

TOP