เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ – ราคาน้ำมันทรงตัวและทองคำปิดบวกในวันศุกร์(10พ.ค.) กังวลข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับปักกิ่ง อย่างไรก็ตามด้วยมีสัญญาณในทางบวกหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้แทนของทั้งสองฝ่าย ช่วยผลักให้วอลล์สตรีทฟื้นตัวปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 4 เซ็นต์ ปิดที่ 61.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 23 เซ็นต์ ปิดที่ 70.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในตอนเช้าวันศุกร์(10พ.ค.) รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ตามคำขู่และปักกิ่งประกาศจะแก้เผ็ด ในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนกำลังเจรจากันในวอชิงตัน ในความพยายามบรรลุข้อตกลงคลี่คลายข้อพิพาทในนาทีสุดท้าย
“ความกังวลต่อสงครามการค้านำมาซึ่งความวิตกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และความหมายของมันก็คืออุปสงค์น้ำมันดิบก็จะอ่อนแอลงไปด้วย” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์จากสถาบันโอยันดาระบุ
ความเคลื่อนไหวรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของรัฐบาลทรัมป์ กระพือความกังวลในวงกว้าง และกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ดันราคาทองคำในวันศุกร์(10พ.ค.) ปิดบวก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,287.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(10พ.ค.)นั้น ฟื้นตัวในช่วงท้ายของการซื้อขาย ได้แรงหนุนจากสัญญาณทางบวกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อการเจรจาทางการค้ากับจีน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 114.01 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,942.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.68 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,881.40 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 6.35 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,916.94 จุด
ช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ดาวโจนส์ร่วงลงไปถึง 350 จุด ถูกกดดันจากมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯที่มีผลบังคับใช้แล้ว และการเจรจาทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งจบลงโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ
อย่างไรก็ตามตลาดฟื้นตัวขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ของทั้งสหรัฐฯและจีนออกมาให้คำจำกัดความการเจรจาว่าเป็นประโยนช์ ขณะที่ประธาธิบดีทรัมป์ก็ประกาศว่าจะเดินหน้าพูดคุยกันต่อไปในอนาคต ส่วน หลิว เหอ นายกรัฐมนตรีจีน บอกว่า “การเจรจาเป็นไปด้วยดี”