ความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สว.กก.2 บก.ทท.2 หรือสารวัตรแย้ ที่เดินทางมาให้ถ้อยคำพนักงานสอบสวน แก้ข้อกล่าวหาว่าถูกกลั่นแกล้งจากขบวนการค้ายาเสพติด ส่งกล่องพัสดุยัดยาไอซ์และยาอีทางไปรษณีย์ถึงบ้านจนทำให้มารดา คือนางประชุม มากบุญ อายุ 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และ ปส.ภาค 6 จับกุม แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหานั้น
ล่าสุดวันนี้ (28 มิ.ย.) พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.6 ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.6 พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีของสารวัตรแย้ และการขยายผลขบวนการค้ายาเสพติดทางไปรษณีย์ที่รับโอนมาจาก ภ.จว.บุรีรัมย์ ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.นครสวรรค์
โดยมีนายวัฒนา เกิดผล ผอ.ป.ป.ส.ภ.6, พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.ท.สมพร ปราบุตร สว.กก.สืบสวน 4 บก.สส.ภ.6 รวมถึงทีมชุดทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมชี้แจงผลความคืบหน้าในการสืบสวนคดี และนำผลตรวจสอบระหว่างตำรวจ-ป.ป.ส.ที่ได้จากคดีที่เกี่ยวข้องของหลายจังหวัด
เพื่อวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวน และร่วมทลายแก๊งเครื่อข่ายยาเสพติดทางไปรษณีย์ ซึ่งมีรายงานว่า จะมีการสรุปภาพรวมในประเด็นต่างๆ จากคำให้การของสารวัตรแย้ เพื่อหาตัวการ และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด รวมถึงการตรวจสอบในคดีนี้มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
หลังการประชุมโดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ต.วันชัย สุวรรศิริเขต รอง ผบช.ภ.6, นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นายวัฒนา เกิดผล ผอ.ป.ป.ส.ภ.6 และ พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า การประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างตำรวจภาค 6 และรองเลขาธิการ ป.ป.ส.ทำให้ทราบเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งใช้ช่องทางส่งพัสดุทางไปรษณีย์จากเชียงราย เชียงใหม่ นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ระนอง พังงา ขอนแก่น ไปปลายทางทั่วประเทศ
โดยเครือข่ายดังกล่าวนี้มีขบวนการโยงใยทั่วประเทศ รวมถึงนครสวรรค์ด้วย ทำให้ตำรวจทราบว่าเครือข่ายนี้คือ “เครือข่ายแก๊งไบเลย์” ซึ่งมีนายสัญญา ศาลางาม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 693/100 หมู่ 9 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ หรือโอ๊ด เป็นแกนหลัก ซึ่ง ป.ป.ส.มีหมายจับในท้องที่ อ.คีรีมาส และมีค่าหัวจำนวน 30,000 บาท
“แก๊งไบเลย์จะส่งพัสดุไปรษณีย์ใส่ยาเสพติดให้ลูกค้า ส่งต่อเป็นทอดๆ โดยนายไบเล่ย์เป็นคนสั่งการ จะส่งของไปยังไปรษณีย์แห่งหนึ่งโดยใส่บัตรประชาชนลูกค้าไปด้วย เมื่อเครือข่ายรับของก็จะส่งต่อเป็นทอดๆ ตามที่อยู่ในบัตรประชาชนที่ใส่ไปในกล่องพัสดุ กว่าจะถึงลูกค้าปลายทางจะส่งหลายทอด และยากต่อการตรวจสอบ”
พล.ต.ต.วันชัยกล่าวอีกว่า ส่วน พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน จะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรนั้น ขณะนี้ ป.ป.ส.และตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐาน เช่น การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน เช็กไลน์ โทรศัพท์ หากพยานหลักฐานชัดเจนจะไม่ละเว้น แต่ว่าขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอจะดำเนินคดีต่อตำรวจ
แต่พนักงานสอบสวน ป.ป.ส.ทราบแล้วว่าขบวนการไบเลย์มีตัวตน และมีเครือข่ายกว้างขวางระดับประเทศ และในสัปดาห์หน้าทางผู้บังคับการฯ จะมีการประชุมสรุป และจะตั้งกองบัญชาการทลายแก๊งไบเลย์ขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยศูนย์ร่วมนี้จะมีตำรวจ ปส., ป.ป.ส. และตำรวจภาค 6 ทำงานร่วมกัน และจะกวาดล้างให้สิ้นสุดโดยเร็ว
ด้านนายวันไชยเปิดเผยว่า จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างตำรวจ กับ ป.ป.ส.ทราบชัดเจนว่าแก๊งไบเลย์ มีตัวตนจริง และใหญ่เท่ากับแก๊งมันทุกเม็ดที่ ป.ป.ส.ทลายมาแล้ว ประเด็นสำคัญเครือข่ายนี้เป็นคนนครสวรรค์ด้วย ซึ่งมีหมายจับค้างเก่า และมีค่าหัวนำจับ 3 หมื่นบาท
“เครือข่ายไบเลย์เป็นขบวนการใหญ่ระดับประเทศ มีเครือข่ายกระจายไปทั่วประเทศ จะส่งยาเสพติดกันทางไปรษณีย์เป็นหลัก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ป.ป.ส.จะต้องประสานงานและทลายเครือข่ายนี้ต่อไป โดยจากนี้ ป.ป.ส.ภาค 6 และตำรวจจะทำงานร่วมกันเพื่อทลายแก๊งไบเลย์ต่อไป หากใครทราบเบาะแสสามารถแจ้งได้มีรางวัลนำจับให้ด้วย”ความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สว.กก.2 บก.ทท.2 หรือสารวัตรแย้ ที่เดินทางมาให้ถ้อยคำพนักงานสอบสวน แก้ข้อกล่าวหาว่าถูกกลั่นแกล้งจากขบวนการค้ายาเสพติด ส่งกล่องพัสดุยัดยาไอซ์และยาอีทางไปรษณีย์ถึงบ้านจนทำให้มารดา คือนางประชุม มากบุญ อายุ 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และ ปส.ภาค 6 จับกุม แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหานั้น
ล่าสุดวันนี้ (28 มิ.ย.) พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.6 ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.6 พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีของสารวัตรแย้ และการขยายผลขบวนการค้ายาเสพติดทางไปรษณีย์ที่รับโอนมาจาก ภ.จว.บุรีรัมย์ ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.นครสวรรค์
โดยมีนายวัฒนา เกิดผล ผอ.ป.ป.ส.ภ.6, พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.ท.สมพร ปราบุตร สว.กก.สืบสวน 4 บก.สส.ภ.6 รวมถึงทีมชุดทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมชี้แจงผลความคืบหน้าในการสืบสวนคดี และนำผลตรวจสอบระหว่างตำรวจ-ป.ป.ส.ที่ได้จากคดีที่เกี่ยวข้องของหลายจังหวัด
เพื่อวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวน และร่วมทลายแก๊งเครื่อข่ายยาเสพติดทางไปรษณีย์ ซึ่งมีรายงานว่า จะมีการสรุปภาพรวมในประเด็นต่างๆ จากคำให้การของสารวัตรแย้ เพื่อหาตัวการ และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด รวมถึงการตรวจสอบในคดีนี้มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
หลังการประชุมโดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ต.วันชัย สุวรรศิริเขต รอง ผบช.ภ.6, นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นายวัฒนา เกิดผล ผอ.ป.ป.ส.ภ.6 และ พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า การประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างตำรวจภาค 6 และรองเลขาธิการ ป.ป.ส.ทำให้ทราบเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งใช้ช่องทางส่งพัสดุทางไปรษณีย์จากเชียงราย เชียงใหม่ นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ระนอง พังงา ขอนแก่น ไปปลายทางทั่วประเทศ
โดยเครือข่ายดังกล่าวนี้มีขบวนการโยงใยทั่วประเทศ รวมถึงนครสวรรค์ด้วย ทำให้ตำรวจทราบว่าเครือข่ายนี้คือ “เครือข่ายแก๊งไบเลย์” ซึ่งมีนายสัญญา ศาลางาม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 693/100 หมู่ 9 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ หรือโอ๊ด เป็นแกนหลัก ซึ่ง ป.ป.ส.มีหมายจับในท้องที่ อ.คีรีมาส และมีค่าหัวจำนวน 30,000 บาท
“แก๊งไบเลย์จะส่งพัสดุไปรษณีย์ใส่ยาเสพติดให้ลูกค้า ส่งต่อเป็นทอดๆ โดยนายไบเล่ย์เป็นคนสั่งการ จะส่งของไปยังไปรษณีย์แห่งหนึ่งโดยใส่บัตรประชาชนลูกค้าไปด้วย เมื่อเครือข่ายรับของก็จะส่งต่อเป็นทอดๆ ตามที่อยู่ในบัตรประชาชนที่ใส่ไปในกล่องพัสดุ กว่าจะถึงลูกค้าปลายทางจะส่งหลายทอด และยากต่อการตรวจสอบ”
พล.ต.ต.วันชัยกล่าวอีกว่า ส่วน พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน จะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรนั้น ขณะนี้ ป.ป.ส.และตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐาน เช่น การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน เช็กไลน์ โทรศัพท์ หากพยานหลักฐานชัดเจนจะไม่ละเว้น แต่ว่าขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอจะดำเนินคดีต่อตำรวจ
แต่พนักงานสอบสวน ป.ป.ส.ทราบแล้วว่าขบวนการไบเลย์มีตัวตน และมีเครือข่ายกว้างขวางระดับประเทศ และในสัปดาห์หน้าทางผู้บังคับการฯ จะมีการประชุมสรุป และจะตั้งกองบัญชาการทลายแก๊งไบเลย์ขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยศูนย์ร่วมนี้จะมีตำรวจ ปส., ป.ป.ส. และตำรวจภาค 6 ทำงานร่วมกัน และจะกวาดล้างให้สิ้นสุดโดยเร็ว
ด้านนายวันไชยเปิดเผยว่า จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างตำรวจ กับ ป.ป.ส.ทราบชัดเจนว่าแก๊งไบเลย์ มีตัวตนจริง และใหญ่เท่ากับแก๊งมันทุกเม็ดที่ ป.ป.ส.ทลายมาแล้ว ประเด็นสำคัญเครือข่ายนี้เป็นคนนครสวรรค์ด้วย ซึ่งมีหมายจับค้างเก่า และมีค่าหัวนำจับ 3 หมื่นบาท
“เครือข่ายไบเลย์เป็นขบวนการใหญ่ระดับประเทศ มีเครือข่ายกระจายไปทั่วประเทศ จะส่งยาเสพติดกันทางไปรษณีย์เป็นหลัก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ป.ป.ส.จะต้องประสานงานและทลายเครือข่ายนี้ต่อไป โดยจากนี้ ป.ป.ส.ภาค 6 และตำรวจจะทำงานร่วมกันเพื่อทลายแก๊งไบเลย์ต่อไป หากใครทราบเบาะแสสามารถแจ้งได้มีรางวัลนำจับให้ด้วย”
รองเลขาฯ ป.ป.ส.กล่าวอีกว่า สำหรับ พ.ต.ท.พิเชษฐจะเกี่ยวพันด้วยหรือไม่นั้นคงจะชัดเจนในไม่ช้านี้ เพราะเป็นเรื่องนี้ที่ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานหลัก ขณะนี้ต้องตรวจสอบหลายอย่าง เช่น เส้นทางการเงิน ธุรกรรมการเงิน การสื่อสาร หากมีหลักฐานเพียงพอจะสามารถระบุได้ หากพูดอะไรไปโดยหลักฐานไม่เพียงพอจะสร้างความเสียหายได้
“หน่วยงาน ป.ป.ส.และ ปส.ได้ให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว คงต้องอยู่ที่การสืบสวนสอบสวนของตำรวจเป็นหลักว่าจะสามารถออกหมายจับใครเพิ่มเติมได้หรือไม่ ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานนักน่าจะชัดเจน เรื่องนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐานเป็นหลัก”
ด้าน พล.ต.ต.ดำรงค์เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้หลักฐานสำคัญจาก ป.ป.ส., ปส.ภาค 6 นำมาประกอบการสืบสวนสอบสวนอย่างชัดเจนมากขึ้น ล่าสุดได้วางแนวทางการสืบสวนไว้แล้ว และได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปตามจับนายสัญญาให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะหากสามารถจับกุมได้ก็จะคลี่คลายทั้งหมด เพราะเครือข่ายนี้ใหญ่ระดับประเทศ การประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานจึงสำคัญ แต่ขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลแล้วว่าใครเป็นใคร คาดว่าสัปดาห์หน้าจะประชุมสรุปได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้มีรายงานว่า กรณี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ เข้าไปอยู่ในกลุ่มไลน์ของขบวนการค้ายาเสติด เพราะ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ กับนายสัญญา หรือโอ๊ด เคยรู้จักกันจึงเป็นเพื่อนกันอยู่ในกลุ่มไลน์ แต่ระยะหลังเกิดผิดใจกันเพราะว่าทั้งคู่เดินคนละเส้นทาง และที่ผ่านมาสารวัตรแย้เคยจับยาเสพติดจากเครือข่ายนี้ มีการเจรจากันหลายครั้ง ขนาดกราบเท้ากันแต่ไม่สามารถเจรจากันได้
อย่างไรก็ตาม ในทางคดีสารวัตรแย้จะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อสารวัตรแย้ใดๆ ทั้งสิ้น
รองเลขาฯ ป.ป.ส.กล่าวอีกว่า สำหรับ พ.ต.ท.พิเชษฐจะเกี่ยวพันด้วยหรือไม่นั้นคงจะชัดเจนในไม่ช้านี้ เพราะเป็นเรื่องนี้ที่ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานหลัก ขณะนี้ต้องตรวจสอบหลายอย่าง เช่น เส้นทางการเงิน ธุรกรรมการเงิน การสื่อสาร หากมีหลักฐานเพียงพอจะสามารถระบุได้ หากพูดอะไรไปโดยหลักฐานไม่เพียงพอจะสร้างความเสียหายได้
“หน่วยงาน ป.ป.ส.และ ปส.ได้ให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว คงต้องอยู่ที่การสืบสวนสอบสวนของตำรวจเป็นหลักว่าจะสามารถออกหมายจับใครเพิ่มเติมได้หรือไม่ ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานนักน่าจะชัดเจน เรื่องนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐานเป็นหลัก”
ด้าน พล.ต.ต.ดำรงค์เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้หลักฐานสำคัญจาก ป.ป.ส., ปส.ภาค 6 นำมาประกอบการสืบสวนสอบสวนอย่างชัดเจนมากขึ้น ล่าสุดได้วางแนวทางการสืบสวนไว้แล้ว และได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปตามจับนายสัญญาให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะหากสามารถจับกุมได้ก็จะคลี่คลายทั้งหมด เพราะเครือข่ายนี้ใหญ่ระดับประเทศ การประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานจึงสำคัญ แต่ขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลแล้วว่าใครเป็นใคร คาดว่าสัปดาห์หน้าจะประชุมสรุปได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้มีรายงานว่า กรณี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ เข้าไปอยู่ในกลุ่มไลน์ของขบวนการค้ายาเสติด เพราะ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ กับนายสัญญา หรือโอ๊ด เคยรู้จักกันจึงเป็นเพื่อนกันอยู่ในกลุ่มไลน์ แต่ระยะหลังเกิดผิดใจกันเพราะว่าทั้งคู่เดินคนละเส้นทาง และที่ผ่านมาสารวัตรแย้เคยจับยาเสพติดจากเครือข่ายนี้ มีการเจรจากันหลายครั้ง ขนาดกราบเท้ากันแต่ไม่สามารถเจรจากันได้
อย่างไรก็ตาม ในทางคดีสารวัตรแย้จะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อสารวัตรแย้ใดๆ ทั้งสิ้น