วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. นำกำลังควบคุมตัว น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา อายุ 25 ปี และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมซ่อนเร้นอำพรางศพ ปล้นทรัพย์และรับของโจร หลังเดินทางมาจาก จ.เชียงราย ด้วยเครื่องบินของกองบินตำรวจมาลงที่กองบินตำรวจ หรือ บน.3 ดอนเมือง ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 และพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ร่วมสอบปากคำ ในห้องกระจกชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 30 นาที โดยผู้ต้องหาทั้งสวมหมวก แว่นกันแดด และหน้ากากอนามัย โดยหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังกองบินตำรวจเพื่อขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อไปยัง จ.ขอนแก่น
จากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.ท.ณัฐธร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ และพ.ต.อ.ภาคภูมิ ผกก.สภ.เขาสวนกวาง ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายละเอียดของคดี โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชน ตนจึงได้สั่งการ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ลงไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวน โดยหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ตำรวจก็สามรถสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุว่าเป็นใคร ซึ่งได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 คน เป็นหญิง 4 คน และผู้ชาย 1 คน ตนจึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี ได้ที่ จ.หนองคาย ต่อมา น.ส.เบนซ์ แฟนสาวของนายวศินได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อตำรวจ ขณะเดียวกัน ทราบว่ามีผู้ต้องหาที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านออกทางด่านชายแดน จ.เชียงราย ทางการไทยได้ประสานไปยังตำรวจพม่าให้ช่วยติดตามจับกุม จนในที่สุด น.ส.ปรียานุช และพวกทนแรงกดดันไม่ไหว เข้ามอบตัวต่อตำรวจพม่า
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จากการสอบปากคำ น.ส.ปรียานุช ทราบว่าเจ้าตัวมีความตั้งใจจะมอบตัวอยู่แล้ว ประกอบกับถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนักจึงเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ของพม่า ก่อนถูกส่งตัวให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย จากการสอบปากคำถึงมูลเหตุจูงใจในการสังหาร น.ส.ปรียานุชให้การว่า เกิดจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด และหนี้สินส่วนตัว โดย น.ส.ปรียานุชอ้างว่าวันเกิดเหตุไม่ได้มีการล่อลวงผู้ตายมาพบ แต่เป็นการพบผู้ตายโดยบังเอิญ หลังจากไม่เจอกันนานกว่า 1 ปี จึงเรียกผู้ตายขึ้นรถเพื่อเคลียร์ปัญหาส่วนตัว ส่วนที่ผู้ตายยอมขึ้นรถเพราะทั้งคู่รู้จักกันอยู่แล้ว ซึ่ง น.ส.ปรียานุช อ้างว่าต้องการเพียงแค่สั่งสอน ไม่ได้ต้องการให้ถึงแก่ชีวิต แต่เมื่อ น.ส.วาริศรา เสียชีวิต จึงได้ตัดสินใจใน 2 ทางเลือกว่าจะนำศพถ่วงน้ำ หรือหั่นศพก่อนนำฝังดิน
ส่วนกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนลงข่าวว่า น.ส.ปรียานุช เกี่ยวข้องกับยาเสพติดข้ามชาตินั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จากสืบสวนสอบสวนไม่พบว่า น.ส.ปรียานุช และพวกมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติแต่อย่างใด เป็นเพียงการเสพยาเสพติดในพื้นที่ จ.ขอนแก่นเท่านั้น โดยเมื่อปี 2559 ตำรวจจับกุม น.ส.วาริศรา ในคดียาเสพติด จึงมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวน แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวนและอาจส่งผลรูปคดี ส่วนเรื่องประเด็นการยืมเงินทราบว่าผู้ตายได้ยืมเงิน น.ส.ปรียานุช 3-4 หมื่นบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เรากดดันทุกวิถีทางเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน ทั้งการก่อเหตุ การหลบหนี จนกระทั่งผู้ต้องหาตัดสินใจเข้ามอบตัว ซึ่งเขาก็ตั้งใจมอบตัวอยู่แล้ว ไม่อยากให้คนที่ไปพักอาศัยด้วยได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับผู้ต้องหาได้สติ รู้สึกสำนึกผิดด้วย จึงได้เข้ามอบตัว ส่วนที่ต้องชำแหละศพเพราะเขาก็ทำอะไรไม่ถูกหลังจากที่ลงมือฆ่าจนศพเริ่มแข็งแล้ว ส่วน น.ส.เบนซ์นั้น น.ส.ปรียานุชอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมดังกล่าว รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนีไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) แต่อาจเป็นเพียงการให้คำแนะนำ เพราะ น.ส.เบนซ์เคยไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี่ น.ส.ปรียานุชก็มีประสบการณ์การเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ทั้งมาเลเซีย สิงค์โปร์ จึงไม่มีใครช่วยทั้งสามคนหลบหนี อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นคำให้การของผู้ต้องหาซึ่งจะพูดอย่างไรก็ได้ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด เพราะเรามีข้อมูล มีแนวทางการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว และว่าหลังจากนี้ได้สั่งการให้มีการตรวจร่างกายผู้ต้องหา รวมทั้งตรวจหาสารเสพติด ก่อนมอบตัวผู้ต้องหาให้ บช.ภ.4 ทำการสอบปากคำ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติลงไปกำกับดูแลการทำแผนฯ และการสอบสวนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ด้าน พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า คดีนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สตม.เป็นหนึ่งในคณะกรรมการประสานชายแดนไทย-เมียนมาร์ หรือ ทีบีซี ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือที่ดีจากประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับ น.ส.ปรียานุช และพวก หลังก่อเหตุผู้ต้องหาเดินทางมาค้างคืนที่ กทม.1 คืน ต่อมาวันที่ 25 พ.ค.เดินทางต่อไปยัง จ.เชียงราย จากนั้นเดินทางไปที่ว่าการ จ.เชียงราย เพื่อพบกับนายหนึ่ง ผู้จัดการสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เพื่อขอหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ระหว่างนั้นก็ทำงานที่สถานบันเทิงใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นวันที่ 27-28 พ.ค.ได้เดินทางข้ามแดนไปกับลูกค้าไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อนตระเวนพักตามอาคารร้าง และกระท่อมร้าง หลังทราบข่าวจึงประสานไปยังโรงแรมที่พักและสถานบริการต่างๆ ไม่ให้รับผู้ต้องหาเข้าทำงานหรือให้ที่พัก เป็นการช่วยกดดันให้ผู้ต้องหาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 3 มิ.ย.
ขณะที่ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ กล่าวว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุเกี่ยวกับความแค้นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ประเด็นนี้แทบจะไม่มีน้ำหนักเลย หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เพื่อสอบปากคำ จากนั้นจะควบคุมตัวทำแผนฯ คาดว่าน่าจะใช้เวลาเพียง 1 วัน โดยครอบคลุมจุดที่เกิดเหตุทั้งหมดคาดว่า 7-8 จุด สำหรับข้อหาที่จะแจ้งต่อผู้ต้องหาประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร ซึ่งคดีนี้ถือว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมดแล้ว