ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก “ลุงวิศวะ” 10 ปี ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา พร้อมปรับพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะอีก 2,000 บาท เหตุทะเลาะวิวาทถึงขั้นยิงกันตายที่หน้าครกใหญ่ ต.อ่างศิลา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2560
วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง หรือ ลุงวิศวะ ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่นที่เข้าล้อมรถยนต์เก๋งและพยายามจะเข้าทำร้าย จนกระสุนถูก นายนวพล หรือปอน ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้า ครกใหญ่สามแยกถนนอ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 4 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ อัยการ ได้ทำการสั่งฟ้อง นายสุเทพ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ขณะที่เพื่อนของ นายนวพล คือ นายณัฐวุฒิ โสมทัศน์ ,นายอดิศร แสนศักดิ์ และนายกมล แจ่มวัย ตั้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ซึ่งนายณัฐวุฒิ และพวกรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดย ศาลจังหวัดได้พิจารณา จำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหารับสารภาพและยังเป็นเยาวชน โทษจำให้รอลงอาญา คุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี ขณะที่ นายนิพนธ์ ทองสี คนขับรถตู้ถูกฟ้องในข้อหาจอดรถลักษณะกีดขวางการจราจร สั่งปรับ 1,000 บาทว่า
ล่าสุดในวันนี้ ( 27 ก.ย. ) นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดชลบุรี โดยศาลพิเคราะห์เห็นว่า พยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริงซึ่งหลังเกิดเหตุมิได้หลบหนีไปไหน พร้อมทั้งยังยอมรับกับเจ้าพนักงานตำรวจในทันทีว่าเป็นคนยิงผู้ตาย ประกอบกับผู้ตายมีส่วนร่วมในการกระทำผิด เห็นสมควรลงโทษจำเลยในสถานเบาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้1ใน3 คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาท
ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของ น.ส.มณีพร ผึ่งผาย มารดาของผู้ตาย และให้ถือว่า น.ส.มณีพร อยู่ในฐานะผู้ร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเท่านั้น ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายวันชัย แสงสุวรรณ์ ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิตได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติของจำเลยที่ต้องมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ก็ยังยังยืนต่อศาลว่าเป็นการป้องกันตัว แต่ทางศาลเห็นว่าจำเลยสมัครใจเข้าไปมีส่วนร่วมทะเลาะวิวาทมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง จึงได้มีการพิพากษาดังกล่าว
ด้าน นายสหภาพ วงศ์ธรรมเจริญ พ่อของ นายนวพล ผู้ตาย กล่าวว่ารู้สึกพอใจในคำตัดสินของศาล พร้อมยังฝากไปยังดวงวิญญาณของ “น้องปอน” ที่เสียชีวิตว่าในวันนี้ทางครอบครัวทำสำเร็จแล้ว ด้วยการให้คนผิดได้รับโทษ และขอขอบคุณในกระบวยการยุติธรรม
ทั้งนี้ เบื้องต้น นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ ได้ยืนยันขอสู้ความต่อชั้นศาลอุทธรณ์ และได้ทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาล ด้วยเงินสดจำนวน 670,000 บาท โดยไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชน