ศรีสุวรรณ ยื่น อสส.ส่งศาลรัฐธรรมนูญฟัน ธนาธร-ช่อ เดินสายพ่นข้อมูลเท็จใส่ร้ายประเทศ

“ศรีสุวรรณ” ยื่นคำร้องอัยการสูงสุดขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “ธนาธร-ช่อ พรรณิการ์” เดินสายพูดต่างประเทศ ให้ข้อมูลเท็จอ้างไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งที่ตัวเองก็ลงเลือกตั้งจนได้เป็น ส.ส. แถมถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ชี้ชักศึกเข้าบ้าน ทำให้ชาติเสื่อมเสีย ผิด ม.119 และ 127 ขอให้ศาล รธน.สั่งหยุดการกระทำ 

วันนี้ (19 ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา อุปนายกและเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะกับนักการเมือง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาพยุโรป สหประชาชาติและสื่อมวลชน ในหลายประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกา พร้อมบรรยายในสถาบันการศึกษาหรือสถานที่ต่างๆ ช่วงระหว่างวันที่ 9-15 ก.ค. การกระทำดังกล่าวแม้จะเป็นสิทธิและเสรีภาพ แต่การที่นายธนาธรไปให้สัมภาษณ์ซึ่งสื่อได้รายงานสอดคล้องกันในลักษณะเป็นเท็จ และจงใจใส่ความต่อประเทศว่ามีการปกครองไม่ได้เป็นไปในระบอบประชาธิปไตย บรรยายและให้สัมภาษณ์ในเชิงชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน หรือการชังชาติ ทำให้ชาติเสื่อมเสีย

นายศรีสุวรรณยังกล่าวว่า การพูดให้สัมภาษณ์ของนายธนาธรเห็นได้ว่าไม่เชื่อมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยในปัจจุบัน ย้อนแย้งกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศที่มีการจัดทำรัฐธรรมนูญประกาศใช้ และจัดการเลือกตั้งซึ่งพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกจนได้มาเป็น ส.ส. และยังได้เสนอชื่อนายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายธนาธรกลับไม่พูดถึง แต่ไปพูดว่า “รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย หรือขอนิยามระบบการเมืองนี้ว่าคือระบบ คสช.ที่มาจากการเลือกตั้งน่าจะเหมาะสมที่สุด นี่ไม่ใช่ประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย” การกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายการกระทำอันเป็นลักษณะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ และอาจขัดหรือแย้ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 และมาตรา 127 โดยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 กรณีที่ทำให้เอกราชของไทยต้องเสื่อมเสียไป โดยโทษคือประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต และมาตรา 127 ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้เกิดเหตุร้ายแก่ประเทศจากภายนอกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จึงขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสั่งการให้นายธนาธรเลิกการกระทำดังกล่าว