แกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่ตั้งโตีะแถลง ยันไม่มีคนภายนอกครอบงำพรรค “สุภดิช”เผยคนที่ถูกอ้างถึงเป็นเพื่อนสนิทที่ร่วมก่อตั้งและเป็นสมาชิกพรรคด้วย แฉกลุ่มยื่นยุบพรรคตัวเองทำผิดข้อบังคับ เตรียมดำเนินการทางกฎหมาย “มิ่งขวัญ”ย้ำไม่ร่วม พปชร.เพราะอุดมการณ์ต่างกัน ยืนยันจับมือเพื่อไทย ถ้าไม่สุจริตจะถอยออกมาเอง พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวงูเห่าในพรรค
วันนี้(18 เม.ย.) ที่สำนักงานพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค , นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้า และผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจำนวนหนึ่งยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณายุบพรรคตัวเอง เนื่องจากปล่อยให้บุคคลภายนอกครอบงำและชี้นำพรรค
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ไม่ทราบ ตอบไม่ได้ จะไปสืบสวนราวเรื่องก็ไม่ใช่หน้าที่ เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. ขอยืนยันว่าสถานภาพของตนเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่วนนายสุภดิชเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ก่อนเป็นหัวหน้าพรรค ตนได้หารือกับนายสุภดิช การบริหารจัดการภายในพรรคขอแบ่งเป็น 2 ปีก โดยปีกหนึ่ง คือ การออกนโยบาย ออกพบมวลชน ตนจะอยู่ฝั่งนี้ ส่วนการบริหารกิจการภายใน การคัดเลือกผู้สมัคร มอบให้ทีมของนายสุภดิช ดำเนินการ
ด้านนายสุภดิช กล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มเพื่อนสนิท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นพูดตรงๆ คือช่วยกันออก ส่วนที่ที่เชิญนายมิ่งขวัญมาร่วมและเป็นหัวหน้าพรรค เพราะเห็นว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพิสูจน์แล้วว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต มีแนวคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคแทบไม่มีเงินสนับสนุน ไม่มีการปราศรัย ไม่มีรถแห่ การหาเสียงเกิดจากการใช้เวทีดีเบตต่างๆ ส่วนเรื่องที่มีผู้สมัครของพรรคไปยื่นยุบพรรคอ้างว่าไม่มีการจัดประชุมหลังจากลงสมัคร ส.ส.และมีบุคคลภายนอกครอบงำนั้น ตอบง่ายๆ ว่าเรามีการจัดการประชุมผู้สมัคร ส.ส. นายมิ่งขวัญก็ถูกเชิญไปอบรมเป็นภาคๆ สิ่งที่มีผู้ไปยื่น กกต.ไม่เป็นความจริง การอ้างว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคก็ไม่จริง คนที่ถูกกล่าวอ้าง (นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ กรรมการบริษัท ไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด) คือเพื่อนสนิทของตน และเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นสมาชิกพรรคด้วย พี่ชายของเขาก็เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเราด้วย และการที่ผู้ไปยื่นทำผิดข้อบังคับพรรค เราขอดูกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป
ด้านนายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า หลังจากมีผู้สมัครไปยื่นยุบพรรคตัวเองที่ กกต.แล้ว ปรากฏว่าช่วงบ่ายวันนั้นมีสมาชิก 3 ราย ที่มีรายชื่อเป็นพยานในเอกสารที่ยื่นให้ กกต.ได้ขอถอนชื่อจากการเป็นพยานแล้ว เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปว่าการไป กกต.เพราะจะไปเรื่องการยุบพรรคตัวเอง ขณะที่เจ้าของบ้านที่ถูกอ้างในเอกสารได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
สำหรับจุดยืนการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่า จะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)โดยตนและพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ประกาศก่อนการเลือกตั้งแล้วว่าจะไม่ร่วมกับพรรคดังกล่าวเพราะอุดมการณ์การเมืองแตกต่างกัน ซึ่งอุดมการณ์ของเราไม่เปลี่ยนแปลง เรายืนยันว่าจะทำงานร่วมกันกับฝ่ายประชาธิปไตย เราพูดตั้งแต่ยังไม่มีการเลือกตั้ง เรายึดมั่นเรื่องซื่อสัตย์สุจริต ถ้าไม่ซื่อสัตย์เราจะถอยออกมาเอง ข่าวที่ว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ไปร่วมเจรจากับพรรค พปชร.ในการตั้งรัฐบาลนั้น ตนและว่าที่ ส.ส.ทุกคนในนามพรรค ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป้นความจริง ตนเองไม่เคยไปเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
“ผมไม่มีความรังเกียจพรรคพลังประชารัฐ ก็คนรู้จักกันทั้งนั้น แต่อุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน จึงบอกว่าไม่ร่วม ผมพูดมาตั้งแต่ต้น ส่วนที่ว่าพรรคเราเปลี่ยน มีงูเห่า ผมยืนยันว่าไม่มี ชัดเจนนะวันนี้” นายมิ่งขวัญ กล่าว
ส่วนกระแสข่าวความแตกแยกในพรรคเรื่องการร่วมรัฐบาลนั้น นายสุภดิช กล่าวยืนยันว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ไม่มีรอยร้าว เรามีเอกภาพ ยืนยันว่าไม่มีงูเห่า เราไปในทางเดียวกัน ไม่มี 5 กับ 1 ตามที่มีข่าว
วันนี้(18 เม.ย.) ที่สำนักงานพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค , นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้า และผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจำนวนหนึ่งยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณายุบพรรคตัวเอง เนื่องจากปล่อยให้บุคคลภายนอกครอบงำและชี้นำพรรค
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ไม่ทราบ ตอบไม่ได้ จะไปสืบสวนราวเรื่องก็ไม่ใช่หน้าที่ เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. ขอยืนยันว่าสถานภาพของตนเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่วนนายสุภดิชเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ก่อนเป็นหัวหน้าพรรค ตนได้หารือกับนายสุภดิช การบริหารจัดการภายในพรรคขอแบ่งเป็น 2 ปีก โดยปีกหนึ่ง คือ การออกนโยบาย ออกพบมวลชน ตนจะอยู่ฝั่งนี้ ส่วนการบริหารกิจการภายใน การคัดเลือกผู้สมัคร มอบให้ทีมของนายสุภดิช ดำเนินการ
ด้านนายสุภดิช กล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มเพื่อนสนิท ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นพูดตรงๆ คือช่วยกันออก ส่วนที่ที่เชิญนายมิ่งขวัญมาร่วมและเป็นหัวหน้าพรรค เพราะเห็นว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพิสูจน์แล้วว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต มีแนวคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคแทบไม่มีเงินสนับสนุน ไม่มีการปราศรัย ไม่มีรถแห่ การหาเสียงเกิดจากการใช้เวทีดีเบตต่างๆ ส่วนเรื่องที่มีผู้สมัครของพรรคไปยื่นยุบพรรคอ้างว่าไม่มีการจัดประชุมหลังจากลงสมัคร ส.ส.และมีบุคคลภายนอกครอบงำนั้น ตอบง่ายๆ ว่าเรามีการจัดการประชุมผู้สมัคร ส.ส. นายมิ่งขวัญก็ถูกเชิญไปอบรมเป็นภาคๆ สิ่งที่มีผู้ไปยื่น กกต.ไม่เป็นความจริง การอ้างว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคก็ไม่จริง คนที่ถูกกล่าวอ้าง (นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ กรรมการบริษัท ไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด) คือเพื่อนสนิทของตน และเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นสมาชิกพรรคด้วย พี่ชายของเขาก็เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเราด้วย และการที่ผู้ไปยื่นทำผิดข้อบังคับพรรค เราขอดูกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป
ด้านนายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า หลังจากมีผู้สมัครไปยื่นยุบพรรคตัวเองที่ กกต.แล้ว ปรากฏว่าช่วงบ่ายวันนั้นมีสมาชิก 3 ราย ที่มีรายชื่อเป็นพยานในเอกสารที่ยื่นให้ กกต.ได้ขอถอนชื่อจากการเป็นพยานแล้ว เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปว่าการไป กกต.เพราะจะไปเรื่องการยุบพรรคตัวเอง ขณะที่เจ้าของบ้านที่ถูกอ้างในเอกสารได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
สำหรับจุดยืนการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่า จะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)โดยตนและพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ประกาศก่อนการเลือกตั้งแล้วว่าจะไม่ร่วมกับพรรคดังกล่าวเพราะอุดมการณ์การเมืองแตกต่างกัน ซึ่งอุดมการณ์ของเราไม่เปลี่ยนแปลง เรายืนยันว่าจะทำงานร่วมกันกับฝ่ายประชาธิปไตย เราพูดตั้งแต่ยังไม่มีการเลือกตั้ง เรายึดมั่นเรื่องซื่อสัตย์สุจริต ถ้าไม่ซื่อสัตย์เราจะถอยออกมาเอง ข่าวที่ว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ไปร่วมเจรจากับพรรค พปชร.ในการตั้งรัฐบาลนั้น ตนและว่าที่ ส.ส.ทุกคนในนามพรรค ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป้นความจริง ตนเองไม่เคยไปเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
“ผมไม่มีความรังเกียจพรรคพลังประชารัฐ ก็คนรู้จักกันทั้งนั้น แต่อุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน จึงบอกว่าไม่ร่วม ผมพูดมาตั้งแต่ต้น ส่วนที่ว่าพรรคเราเปลี่ยน มีงูเห่า ผมยืนยันว่าไม่มี ชัดเจนนะวันนี้” นายมิ่งขวัญ กล่าว
ส่วนกระแสข่าวความแตกแยกในพรรคเรื่องการร่วมรัฐบาลนั้น นายสุภดิช กล่าวยืนยันว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ไม่มีรอยร้าว เรามีเอกภาพ ยืนยันว่าไม่มีงูเห่า เราไปในทางเดียวกัน ไม่มี 5 กับ 1 ตามที่มีข่าว