บก.น.3 เผย กล้องวงจรปิดจับภาพไม่ถึง 1 นาที คนร้าย 4 คนแต่งกายรัดกุมปิดบังตัวตน ขี่ จยย.ตามมาใช้ของแข็งไม่มีคม รุมทำร้าย “จ่านิว” ก่อนหนีไปทางรามอินทรา เร่งรวบรวมหลักฐานขอหมายจับ พร้อมตรวจสอบทุกประเด็น แต่พบผู้ต้องสงสัยคล้ายแก๊งทวงหนี้
วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 11.30 น. ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (กก.สส.บก.น.3) พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 , พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 ,พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี แลพ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณี นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายบริเวณปากซอยพระยาสุเรนทร์ ซอย 2 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลฯ
พล.ต.ต.ธิติ กล่าวว่า พบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุเพียงตัวเดียวมีความยาวประมาณ 1 นาที ซึ่งจับภาพได้ไม่ค่อยชัดเจนและมีต้นไม้บังเล็กน้อย แต่เห็นภาพคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน รูปร่างสันทัดคล่องแคล่ว ใส่เสื้อผ้ารัดกุมปิดบังตัวตน มีลักษณะเตรียมของแข็งแต่ไม่มีคมมาใช้ก่อเหตุ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นและไม่สามารถพิสูจน์ป้ายทะเบียนได้ มา 2 คัน โดยหลังเกิดเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ก่อนกลับรถมุ่งหน้ารามอินทราแล้วหายไป ส่วนความเชื่อมโยงเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยทำร้ายร่างกายในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง หรือไม่นั้น ทางผู้บังคับบัญชา
ได้สั่งให้ตรวจสอบในทุกมิติ
“ขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่สามารถจับคนร้ายได้ แต่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ศาลอนุมัติออกหมายจับ แต่ขออย่าเพิ่งกำหนดกรอบเวลาว่าจะจับกุมได้เมื่อใด หากคาดการณ์ล่วงหน้าอาจทำให้มองข้ามประเด็นสำคัญออกไป ส่วนจะมุ่งหมายเอาชีวิตหรือไม่นั้น ซึ่งตอนนี้มีเพียงคำให้การจากมารดาคนเจ็บเท่านั้น ยังต้องฟังปากคำจากตัวคนเจ็บเสียก่อน ทั้งนี้ หากผู้ใดที่เห็นเหตุการณ์ มีภาพจากกล้องหน้ารถ สามารถนำมาเป็นเบาะแสกับตำรวจได้ที่ บก.น.3 อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ ยินดีให้ความคุ้มครองแก่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยจะติดต่อไปว่ามีความต้องการในเรื่องใดบ้าง” พล.ต.ต.ธิติ กล่าว
รายงานแจ้งว่า พยานเหตุการณ์เปิดเผยว่า ปกติมารดาของ นายสิรวิชญ์ จะขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่ปากซอยดังกล่าวเวลา 10.00-11.00 น. เป็นประจำ แต่วันดังกล่าว นายสิรวิชญ์ นั่งวินรถจักรยานยนต์มาลงปากซอย ก่อนจะเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อ และเดินข้ามถนนในซอยพระยาสุเรนท์ เพื่อมายังถนนรามอินทรา กระทั่งมีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามมาอย่างรวดเร็วและรุมทำร้ายดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน พบคนต้องสงสัยลักษณะคล้ายกับคนร้าย แต่งกายเหมือนแก๊งทวงหนี้ ขี่รถจักรยานยนต์มาสังเกตพฤติกรรมของนายสิรวิชญ์