“คะน้า” แถลงข่าวชิลๆ ยันไม่ใช่นางร้ายปากเจ่อขายตัว จนเพื่อนดาราในกลุ่มรังเกียจเฉดหัวออกจากกลุ่ม ยันรถเบนซ์ซื้อตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ ขณะทำธุรกิจกับแฟนเก่า ส่วนของแบรนด์เนมที่ใช้อยู่ ก็แฟนเก่าให้มาหรือซื้อของมือสองใช้ ไม่ได้ทะเลาะ “ใบเตย” เผย ใบเตยยังโทร.มาให้คำปรึกษาการตอบคำถาม เพราะเคยตกเป็นข่าวขายตัวเหมือนกัน
คันกันทั้งประเทศกับข่าวอักษรย่อ “นางร้ายปากเจ่อขายตัว” ถึงขั้นมีรูปอยู่ในเว็บขายบริการ เข้าวงการมาได้ไม่ทันไร ถึงได้มีเบนซ์ขับ มีของแบรนด์เนมใช้ ชีวิตหรูหรา แถมยังไม่รับผิดชอบงานทำกองถ่ายล่ม จนผู้จัดการส่วนตัวและเพื่อนดาราเฉดหัวออกจากกลุ่ม เรื่องนี้ “ใบเตย สุธีวัน” เคยออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว นางร้ายดังกล่าวเป็นเพื่อนของตนจริง แต่ไม่ขอพูดเรื่องพฤติกรรมขายตัว เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ได้ไล่ออกจากกลุ่มปัจจุบันก็ยังคุยกันอยู่ ส่วนนางร้ายคนดังกล่าวเป็นใครไม่ขอตอบทิ้งไว้เป็นปริศนา
เรื่องนี้คนก็เลยเพ่งเล็งมาที่ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นางร้ายช่อง 7 ซึ่งเคยมีผู้จัดการคนเดียวกับใบเตย ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ขณะมาร่วมรายการสนามข่าวบันเทิง ช่อง 7 ยืนยันว่า ไม่เคยขายตัว ส่วนรถเบนซ์มีขับตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ เพราะทำธุรกิจกับแฟนเก่ามาก่อน และตนก็ทำงานหลายอย่างไม่ได้เป็นแค่นักแสดง ของแบรนด์เนมแฟนเก่าก็ซื้อให้หรือซื้อของมือสองมาใช้บ้าง
“วันนี้ก็อยากจะมาพูดถึงประเด็นที่ข่าวที่ถูกพาดพิงว่าค่อนข้างที่จะแรงอยู่ ก็พูดตรงนี้วันนี้จบเลยนะคะว่าไม่จริง ไม่ใช่เรา เราไม่ได้ทำ จริงๆ ตอนแรกไม่รู้เรื่องเลยค่ะ มีคนโทรมาบอกตอนแรกก็ตกใจ ก็งงค่ะ พอได้ข่าวตอนแรกก็ช็อคนิดนึง ก็ตั้งสติแล้วไปดูข่าว คือ มันไม่ใช่เรา ก็ค่อยๆ คิดว่าทำยังไงต่อค่ะ แต่แว๊บแรกคือเป็นห่วงคุณแม่ว่าเขาจะเป็นยังไงมากกว่า แต่ตอนอักษรย่อไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ผ่านมา 2 – 3 วันหนูไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ว่าเป็นใคร ไม่ได้ตามข่าว มารู้อีกทีตอนที่พี่เตยสัมภาษณ์ ตอนนั้นถึงอ้าว…เขาเอ่ยชื่อเราแล้ว ถึงรู้ว่าเป็นเรา”
โต้ข่าวว่าเข้าวงการไม่เท่าไหร่ก็มีเบนซ์ป้ายแดงขับแล้ว ยันได้มาจากการทำธุรกิจกับแฟนเก่า
“หนูไม่รู้เลย แต่หนูต้องบอกก่อนว่าหนูมีตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าวงการ ต้องชี้แจงก่อนว่าหนูเคยช่วยงานแฟนเก่า คือ คนใกล้ตัวหนูจะรู้ว่าหนูกับแฟนเก่าทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว และรถยุโรปที่หนูมีหนูก็มีตั้งแต่เข้าวงการแล้ว และเราก็ทำงานด้วยกัน หนูก็เก็บหอมรอมริบมา จนปัจจุุบันหนูก็ผ่อนรถคันนี้ พอเลิกกันไปหนูก็ผ่อนเองมาตลอดจนถึงปัจจุบัน อย่างรถที่บอกว่ามีหลายคันหนูก็มีแค่คันเดียว คือ รถยุโรปคันนั้นค่ะ และที่เขาบอกว่ามีคันอื่นอาจจะเป็นรถของแฟนหรือเปล่า”
ไม่รู้มีรูปอยู่ในเว็บขายบริการ ถามหาคนที่เคยซื้อบริการ
“ไม่รู้เลยค่ะ หนูไม่รู้ว่าจะเซิร์จยังไงด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าอยู่เว็บไหน (มีคนแอบอ้างว่าเคยซื้อบริการ) คือ เขาแอบอ้าง แล้วเขาเป็นใคร ที่ผ่านก็ไม่เคยมีใครติดต่อให้ไปทำงานแบบนั้น แต่เคยมีเหมือนเฟซบุ๊กปลอมแล้วโดนกดสแปมไป เราก็ไม่ได้สนใจ นานแล้วค่ะ”
ชิลกับกระแสข่าวแต่สงสารครอบครัวเลยต้องออกมาแถลงข่าวว่าลูกสาวไม่ได้ขายตัว
“ข่าวนี้มันรุนแรงมาก กับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง เวลาคนไม่รู้จักเรามองเข้ามาเขามองไม่ดีอยู่แล้ว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะแถลงข่าว เพราะเราชิลๆ แต่กระแสแรงขึ้น ทำให้แม่เครียด ลองคิดถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ ที่คนมาถามว่าลูกขายตัวเหรอเขาจะรู้สึกยังไง การที่คะน้าออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของแม่ เลยต้องมาเคลียร์ว่าเราไม่ได้ทำนะ”
“เจอข่าวแบบนี้ก็ไม่ได้ท้อขนาดนั้น แต่ถือเป็นบทเรียน ให้เรารู้ว่า เราควรจะทำตัวยังไงมากกว่า ไม่ได้ร้องไห้ค่ะ คนอื่นก็โดนหนักกว่านี้ก็มี แต่บางคนคอมเมนต์กันสนุกปากมาก เชื่อไปแล้วว่าเป็นเราไปแล้ว (บางคอมเม้นต์อ้างว่าเขาอยู่แถวบ้านเรา และเคยได้ยินเรื่องเราขายบริการ) ไม่ทราบเลยคะ ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ขนาดนั้น เพราะคอมเมนต์เยอะมากเป็นหมื่นข้อความ หนูก็งงว่าอะไรขนาดนั้น”
แจงกรณีพึ่งจะเข้าวงการบันเทิงแต่ใช้ของแบรนด์เนมว่า ไม่ได้เป็นแค่นักแสดงแต่ทำธุรกิจจิวเวลรี่และครีม
“จริงๆ เราก็ไม่ได้ทำอาชีพเดียว คะน้ามีธุรกิจอื่นๆ มีทำจิวเวลรี่และครีม และก่อนหน้านี้ เคยทำธุรกิจกับแฟนเก่า คนใกล้ตัวจะรู้ว่าเราเก็บหอมรอมริบ และเลิกกับแฟน แต่ไม่ขอกล่าวถึงว่าเขาเป็นใคร ยังไง ตอนคบกันเขาก็มีซื้อของแบรนด์เนมให้บ้างในโอกาสพิเศษ และบางอย่างเราซื้อเองแต่เป็นของมือสอง มีไม่กี่ชิ้นหรอก และไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา เห็นในข่าวว่าคบเพื่อนไฮโซจริงๆ ไม่มีนะ ก็ยังงงๆอยู่”
ประกาศฟ้องหากใครปล่อยข่าวให้เสียหาย
“หลังจากนี้ ถ้ายังมีคนปล่อยข่าวออกมาทำให้เสียชื่อเสียง ยังไม่หยุดขุดคุ้ยเรื่องลักษณะแบบนี้ออกมา เราจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเราไม่ได้ทำอย่างที่ข่าวออกมา”
เผย “ใบเตย” โทรมาและให้คำปรึกษาเรื่องการตอบคำถามเพราะเคยมีประสบการณ์กับข่าวแบบนี้
“คุยค่ะ พี่เขาโทรมาถามว่าเป็นยังไงและให้คำแนะนำว่าควรพูดตอบยังไง เพราะพี่เขาเคยมีประสบการณ์กับข่าวแบบนี้ พี่เขาเป็นห่วงเรา จริงๆ หลังจากออกจากผู้จัดการเดียวกัน แต่เขายังเป็นพี่สาวที่น่ารักและเขายังห่วงเราเหมือนเดิม”
ขอชี้แจงกรณีเบี้ยวคิวกองถ่ายทำให้กองถ่ายล่ม
“จริงๆ อยากเคลียร์หลายประเด็นเลย อย่างประเด็นที่บอกว่าเราทำกองถ่ายล่มอันนี้ไม่จริง เขาบอกว่าหนูไปทำศัลยกรรม หนูไปทำจริง ไปทำจมูกที่เกาหลี แต่ได้มีการลากองถ่ายเรียบร้อย ไปขอคิวล่วงหน้า ตอนนั้นอยู่ระหว่างถ่ายเรื่องมัสยา ได้ถามกองถ่ายแล้วว่าไปทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร กองถ่ายก็หาคิวมาให้ว่าไปได้ เราก็บินไปทำเลย ระหว่างที่หนูไปทำคนอื่นก็ถ่ายปกติ กลับมาก็ถ่ายต่อ”
“เชื่อไหมว่า หนูบอกกับตัวเองว่าหลังจากนี้ หนูจะเลิกเมาท์คนอื่นเลย เพราะว่าพอเจอกับตัวเองแล้วรู้สึกเลย และเพิ่งรู้ว่าการโดนเมาท์ในเรื่องไม่จริงมันเป็นอย่างไร ฝากถึงคนปล่อยข่าวด้วย ขอย้ำอีกครั้งถ้ายังไม่หยุดที่จะปล่อยข่าวเสียๆ ถึงเรา ไม่ว่าจะอะไรก็ตามจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”
เรื่องนี้คนก็เลยเพ่งเล็งมาที่ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นางร้ายช่อง 7 ซึ่งเคยมีผู้จัดการคนเดียวกับใบเตย ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ขณะมาร่วมรายการสนามข่าวบันเทิง ช่อง 7 ยืนยันว่า ไม่เคยขายตัว ส่วนรถเบนซ์มีขับตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ เพราะทำธุรกิจกับแฟนเก่ามาก่อน และตนก็ทำงานหลายอย่างไม่ได้เป็นแค่นักแสดง ของแบรนด์เนมแฟนเก่าก็ซื้อให้หรือซื้อของมือสองมาใช้บ้าง
“วันนี้ก็อยากจะมาพูดถึงประเด็นที่ข่าวที่ถูกพาดพิงว่าค่อนข้างที่จะแรงอยู่ ก็พูดตรงนี้วันนี้จบเลยนะคะว่าไม่จริง ไม่ใช่เรา เราไม่ได้ทำ จริงๆ ตอนแรกไม่รู้เรื่องเลยค่ะ มีคนโทรมาบอกตอนแรกก็ตกใจ ก็งงค่ะ พอได้ข่าวตอนแรกก็ช็อคนิดนึง ก็ตั้งสติแล้วไปดูข่าว คือ มันไม่ใช่เรา ก็ค่อยๆ คิดว่าทำยังไงต่อค่ะ แต่แว๊บแรกคือเป็นห่วงคุณแม่ว่าเขาจะเป็นยังไงมากกว่า แต่ตอนอักษรย่อไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ผ่านมา 2 – 3 วันหนูไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ว่าเป็นใคร ไม่ได้ตามข่าว มารู้อีกทีตอนที่พี่เตยสัมภาษณ์ ตอนนั้นถึงอ้าว…เขาเอ่ยชื่อเราแล้ว ถึงรู้ว่าเป็นเรา”
โต้ข่าวว่าเข้าวงการไม่เท่าไหร่ก็มีเบนซ์ป้ายแดงขับแล้ว ยันได้มาจากการทำธุรกิจกับแฟนเก่า
“หนูไม่รู้เลย แต่หนูต้องบอกก่อนว่าหนูมีตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าวงการ ต้องชี้แจงก่อนว่าหนูเคยช่วยงานแฟนเก่า คือ คนใกล้ตัวหนูจะรู้ว่าหนูกับแฟนเก่าทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว และรถยุโรปที่หนูมีหนูก็มีตั้งแต่เข้าวงการแล้ว และเราก็ทำงานด้วยกัน หนูก็เก็บหอมรอมริบมา จนปัจจุุบันหนูก็ผ่อนรถคันนี้ พอเลิกกันไปหนูก็ผ่อนเองมาตลอดจนถึงปัจจุบัน อย่างรถที่บอกว่ามีหลายคันหนูก็มีแค่คันเดียว คือ รถยุโรปคันนั้นค่ะ และที่เขาบอกว่ามีคันอื่นอาจจะเป็นรถของแฟนหรือเปล่า”
ไม่รู้มีรูปอยู่ในเว็บขายบริการ ถามหาคนที่เคยซื้อบริการ
“ไม่รู้เลยค่ะ หนูไม่รู้ว่าจะเซิร์จยังไงด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าอยู่เว็บไหน (มีคนแอบอ้างว่าเคยซื้อบริการ) คือ เขาแอบอ้าง แล้วเขาเป็นใคร ที่ผ่านก็ไม่เคยมีใครติดต่อให้ไปทำงานแบบนั้น แต่เคยมีเหมือนเฟซบุ๊กปลอมแล้วโดนกดสแปมไป เราก็ไม่ได้สนใจ นานแล้วค่ะ”
ชิลกับกระแสข่าวแต่สงสารครอบครัวเลยต้องออกมาแถลงข่าวว่าลูกสาวไม่ได้ขายตัว
“ข่าวนี้มันรุนแรงมาก กับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง เวลาคนไม่รู้จักเรามองเข้ามาเขามองไม่ดีอยู่แล้ว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะแถลงข่าว เพราะเราชิลๆ แต่กระแสแรงขึ้น ทำให้แม่เครียด ลองคิดถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ ที่คนมาถามว่าลูกขายตัวเหรอเขาจะรู้สึกยังไง การที่คะน้าออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของแม่ เลยต้องมาเคลียร์ว่าเราไม่ได้ทำนะ”
“เจอข่าวแบบนี้ก็ไม่ได้ท้อขนาดนั้น แต่ถือเป็นบทเรียน ให้เรารู้ว่า เราควรจะทำตัวยังไงมากกว่า ไม่ได้ร้องไห้ค่ะ คนอื่นก็โดนหนักกว่านี้ก็มี แต่บางคนคอมเมนต์กันสนุกปากมาก เชื่อไปแล้วว่าเป็นเราไปแล้ว (บางคอมเม้นต์อ้างว่าเขาอยู่แถวบ้านเรา และเคยได้ยินเรื่องเราขายบริการ) ไม่ทราบเลยคะ ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ขนาดนั้น เพราะคอมเมนต์เยอะมากเป็นหมื่นข้อความ หนูก็งงว่าอะไรขนาดนั้น”
แจงกรณีพึ่งจะเข้าวงการบันเทิงแต่ใช้ของแบรนด์เนมว่า ไม่ได้เป็นแค่นักแสดงแต่ทำธุรกิจจิวเวลรี่และครีม
“จริงๆ เราก็ไม่ได้ทำอาชีพเดียว คะน้ามีธุรกิจอื่นๆ มีทำจิวเวลรี่และครีม และก่อนหน้านี้ เคยทำธุรกิจกับแฟนเก่า คนใกล้ตัวจะรู้ว่าเราเก็บหอมรอมริบ และเลิกกับแฟน แต่ไม่ขอกล่าวถึงว่าเขาเป็นใคร ยังไง ตอนคบกันเขาก็มีซื้อของแบรนด์เนมให้บ้างในโอกาสพิเศษ และบางอย่างเราซื้อเองแต่เป็นของมือสอง มีไม่กี่ชิ้นหรอก และไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา เห็นในข่าวว่าคบเพื่อนไฮโซจริงๆ ไม่มีนะ ก็ยังงงๆอยู่”
ประกาศฟ้องหากใครปล่อยข่าวให้เสียหาย
“หลังจากนี้ ถ้ายังมีคนปล่อยข่าวออกมาทำให้เสียชื่อเสียง ยังไม่หยุดขุดคุ้ยเรื่องลักษณะแบบนี้ออกมา เราจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเราไม่ได้ทำอย่างที่ข่าวออกมา”
เผย “ใบเตย” โทรมาและให้คำปรึกษาเรื่องการตอบคำถามเพราะเคยมีประสบการณ์กับข่าวแบบนี้
“คุยค่ะ พี่เขาโทรมาถามว่าเป็นยังไงและให้คำแนะนำว่าควรพูดตอบยังไง เพราะพี่เขาเคยมีประสบการณ์กับข่าวแบบนี้ พี่เขาเป็นห่วงเรา จริงๆ หลังจากออกจากผู้จัดการเดียวกัน แต่เขายังเป็นพี่สาวที่น่ารักและเขายังห่วงเราเหมือนเดิม”
ขอชี้แจงกรณีเบี้ยวคิวกองถ่ายทำให้กองถ่ายล่ม
“จริงๆ อยากเคลียร์หลายประเด็นเลย อย่างประเด็นที่บอกว่าเราทำกองถ่ายล่มอันนี้ไม่จริง เขาบอกว่าหนูไปทำศัลยกรรม หนูไปทำจริง ไปทำจมูกที่เกาหลี แต่ได้มีการลากองถ่ายเรียบร้อย ไปขอคิวล่วงหน้า ตอนนั้นอยู่ระหว่างถ่ายเรื่องมัสยา ได้ถามกองถ่ายแล้วว่าไปทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร กองถ่ายก็หาคิวมาให้ว่าไปได้ เราก็บินไปทำเลย ระหว่างที่หนูไปทำคนอื่นก็ถ่ายปกติ กลับมาก็ถ่ายต่อ”
“เชื่อไหมว่า หนูบอกกับตัวเองว่าหลังจากนี้ หนูจะเลิกเมาท์คนอื่นเลย เพราะว่าพอเจอกับตัวเองแล้วรู้สึกเลย และเพิ่งรู้ว่าการโดนเมาท์ในเรื่องไม่จริงมันเป็นอย่างไร ฝากถึงคนปล่อยข่าวด้วย ขอย้ำอีกครั้งถ้ายังไม่หยุดที่จะปล่อยข่าวเสียๆ ถึงเรา ไม่ว่าจะอะไรก็ตามจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”